นั่งฮาอะ เลยเอามาฝากมิตรรักทุกท่าน ของดีต้องแบ่งปัน ลองไล่ตามอ่านไปแล้วหวังว่าคงสร้างรอยยิ้มได้ไม่น้อย มีแบบให้ดาวโหลดจากเว็บเด็กดีด้วย แล้วก็คัดบทความที่เกี่ยวข้องมารวมเป็นก้อนเดียวกัน บางแหล่งอาจจะหยาบโลนทำให้ระคายเคืองรับไม่ได้สำหรับบางคน แต่ว่าอยากให้เปิดกว้าง เด็กจะได้รู้ว่าในโลกนี้ไม่ได้มีแต่สิ่งดี ต้องหัดเรียนรู้สังคมจากด้านลบหรือหัดเรียนรู้ความชั่วร้ายไว้เพื่อเอาตัวรอด แต่ถ้าเอาตัวรอดไม่ได้ก็จะถูกความชั่วครอบงำ ข้าน้อยเชื่อเหลือเกิ๊นว่าเด็กสมัยเน๊ไม่โง่แบบป้าๆลุงๆวิตกกันขนาดนั้นหรอก อย่าจิตตกนักเลยเจ้าค่า~
ประเดิมด้วยบทความของ OS จุดสะกิตต่อมฮา ซึ่งทำให้ข้าน้อยต้องงดทำกิจกรรมส่วนตัวมานั่งเขียนบล็อคในรอบปีเลยทีเดียว จะว่าไปก็ชักสงสัยว่าคนเขียนจะเป็น...รึเปล่านะ???!!! XD แต่ก็ขอขอบคุณมากนะคะที่จุดประกาย you make my dayจริงจริ๊ง/GT
เมื่อเข้าไปสนทนาในเว็บบอร์ดเกมออนไลน์, ดูคลิปวีดีโอบน Youtube, Mthai, Clip Mass หรือสังคม Social แบบ Facebook, Exteen, Google+ อาจจะเห็นการใช้ศัพท์เฉพาะในวงการการ์ตูนหลุดมาบ้าง ซึ่งพอสังคมกว้างขึ้น ก็เห็นศัพท์แปลกตาเหล่านี้มากยิ่งขึ้น บางทีก็ใช้กันโดยไม่ได้ตั้งใจแต่เพราะเคยชินจากในเว็บบอร์ดการ์ตูนก็มี ลองมาดูความหมายของคำเหล่านี้กัน
มังงะ (Manga) : คำนิยาม “หนังสือการ์ตูน” ที่ผลิตจากญี่ปุ่น เนื่องจากความหมายตรงตัวและพิมพ์สั้นกว่า ทำให้มีบางคนใช้แทนคำว่าหนังสือการ์ตูน
คอมิค (Comic) : หนังสือการ์ตูนในฝั่งตะวันตกและอเมริกา
อนิเมะ (Anime) : ความหมายเหมือน “แอนิเมชัน” เมื่อก่อนเป็นคำที่ใช้เฉพาะในญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันใช้กันแพร่หลาย
โดจิน (Doujin) : การ์ตูนทำมือและขายให้ผู้อ่านโดยไม่ผ่านสำนักพิมพ์ อาจเขียนโดยใช้ตัวละครที่สร้างเองหรือจากการ์ตูนเรื่องอื่น นักเขียนการ์ตูนชื่อดังหลายๆ คนก็เคยเป็นกลุ่มที่วาดโดจินมาก่อน ก่อนจะได้งานจากสำนักพิมพ์และกลายเป็นที่รู้จักในภายหลัง
เนื่องจากไม่จำกัดแนว ในยุคหลังๆ จึงเห็นแบบการ์ตูนติดเรตค่อนข้างเยอะเพราะขายง่ายกว่าแนวอื่น บางครั้งกล่าวถึงแนวโดจินกันลอยๆ อาจเป็นประเภทนั้นก็ได้ แต่โดจินประเภทไม่ติดเรตและเนื้อหาค่อนข้างดีก็เยอะนะ
LC (License) : ส่วนใหญ่การ์ตูนที่วางขายหรือฉายในญี่ปุ่นจะยังไม่มีลิขสิทธิ์ แต่เมื่อมีบริษัทในต่างประเทศซื้อลิขสิทธิ์ จะมีกฏหมายคุ้มครองการเผยแพร่ในประเทศนั้น ทำให้กลุ่ม Fansub (กลุ่มผู้แปล Subtitle ให้กับอนิเมะหรือรายการทีวีต่างๆ ) กับหนังสือการ์ตูนไพเรต (หนังสือการ์ตูนที่มีสิทธิ์ในการจำหน่ายในไทย) จะต้องหยุดการเผยแพร่
ถ้าคนมีอายุหน่อย น่าจะเกิดทันยุคหนังสือ The Talent พอมีหนังสือการ์ตูนลิขสิทธิ์ในไทยแบบ Boom และ C-Kids รวมถึงหนังสือการ์ตูนรวมเล่มแบบลิขสิทธิ์ ทำให้เรื่องที่ไม่มีลิขสิทธิ์ก็ไม่สามารถวางขายต่อได้
ซีซัน (Season) : ช่วงเวลาในการฉายอนิเมะจากญี่ปุ่นตามสล็อตเวลาของสถานีโทรทัศน์ แบ่งเป็น 4 ช่วงตามฤดูกาลในญี่ปุ่น โดย 1 ซีซันยาวประมาณ 11 – 13 ตอน แบ่งออกเป็น 4 ช่วง คือ
- ฤดูหนาว (Winter) ส่วนใหญ่เริ่มฉายเดือน 1
- ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) ส่วนใหญ่เริ่มฉายเดือน 4
- ฤดูร้อน (Summer) ส่วนใหญ่เริ่มฉายเดือน 7
- ฤดูใบไม้ผลิ (Fall) ส่วนใหญ่เริ่มฉายเดือน 10
* ช่วงที่ฉายอนิเมะส่วนใหญ่ จะเริ่มกลางฤดูกาลจริง ไม่ได้เริ่มต้นฤดู อย่าง ฤดูหนาวในญี่ปุ่น จะเริ่มเดือน 12
- ฤดูหนาว (Winter) ส่วนใหญ่เริ่มฉายเดือน 1
- ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) ส่วนใหญ่เริ่มฉายเดือน 4
- ฤดูร้อน (Summer) ส่วนใหญ่เริ่มฉายเดือน 7
- ฤดูใบไม้ผลิ (Fall) ส่วนใหญ่เริ่มฉายเดือน 10
* ช่วงที่ฉายอนิเมะส่วนใหญ่ จะเริ่มกลางฤดูกาลจริง ไม่ได้เริ่มต้นฤดู อย่าง ฤดูหนาวในญี่ปุ่น จะเริ่มเดือน 12
SS : ถ้าต่อท้ายชื่อการ์ตูน ส่วนใหญ่จะหมายถึง ภาคต่อของการ์ตูน เช่น Gundam 00 SS1 ก็หมายถึงซีซันแรก ยกเว้นบางเรื่องอาจเอา SS ห้อยท้ายไว้แต่ไม่เกี่ยวข้องกับภาคเลย แบบเรื่อง Amagami SS หรือ Inu X Boku SS
Film, Movie : อนิเมะที่ฉายในโรงภาพยนตร์ อาจเป็นตอนพิเศษ, ตอนจบต่อเนื่องจากภาค TV หรืออนิเมะที่ทำมาฉายบนจอเงินโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่จะทุนสร้างสูงทำให้ภาพละเอียดกว่าภาค TV ถึงหลายเรื่องจะจำกัดโรงฉายและส่วนใหญ่รายได้น้อยกว่าภาพยนตร์ที่คนแสดง แต่หลายเรื่องทำรายได้ระดับร้อยล้านเยนถึงพันล้านเยนขึ้นไป หลังฉายประมาณครึ่งปีถึง 1 ปี จะมีการวางขาย DVD หรือ BD ตามมา
ฉายโรง ทุนสร้างสูง รายละเอียดก็สูงขึ้น
OVA (Original Video Animation) : การ์ตูนบางเรื่องที่ไม่ฉายทางโทรทัศน์ ส่วนใหญ่วางขายตามสะดวก ไม่ต้องขายต่อเนื่อง อาจขายแค่ 1 – 2 ตอนในแต่ละปีจนจบ ทุนสร้างสูงกว่าภาค TV แต่ส่วนใหญ่จะน้อยกว่าภาคจอเงิน แต่เดิมจะใช้คำว่า OAV (Original Animated Video) ซึ่งมีความหมายคล้ายกัน แต่เนื่องจากในญี่ปุ่นมีกรณีสับสนกับคำว่า AV (Adult Video) เลยเลี่ยงไปใช้ OVA แทนมากกว่า
Gantz ภาค Live Action
Drama CD : ส่วนใหญ่เป็นตอนพิเศษจากการ์ตูนที่เพิ่มเนื้อหาที่เข้ามา ส่วนใหญ่จะใช้เสียงประกอบอย่างเดียวโดยไม่มีภาพ คล้ายๆ ละครวิทยุในไทย, ถ้ามีภาพนิ่งประกอบเสียงพากย์ อาจจะเรียก Picture Drama หรืออื่นๆ
Light Novel : นิยายสำหรับวัยรุ่น ส่วนใหญ่เนื้อหาเหมือนอ่านการ์ตูน เพียงแต่เน้นตัวหนังสือทั้งเล่ม มีภาพประกอบน้อยมาก (เฉลี่ยประมาณ 5 – 10 หน้าจากความหนาประมาณ 200 หน้า) ส่วนใหญ่นิยมใช้สำนวนที่เข้าใจไม่ยาก เพื่อให้เด็กจนถึงวัยรุ่นญี่ปุ่นอ่านเข้าใจ ปัจจุบันมีเรื่องประเภท Light Novel วางจำหน่ายในไทยมากขึ้น
ถ้าสงสัยต่อว่า แล้วต่างจาก Novel ตรงไหน ? คิดว่าเป็น “นิยายประเภทหนึ่ง” ที่เจาะเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลักก็แล้วกัน อธิบายแบบทางคณิตศาสตร์ก็เหมือนเป็น Subset ของนิยายนั่นแหละ
รายละเอียดเพิ่มเติม : รู้หรือไม่ Light Novel และ Visual Novel คืออะไร ?
ยังมีอีกคำที่เห็นบ่อยในคลิป คือ MAD นิยมใช้เพื่อบอกว่า เป็นคลิปมาจากกลุ่มคอมมิวนิตี้ผู้ที่ชอบการตัดต่อในญี่ปุ่น เช่น จากใน Nico Nico Douga เป็นต้น
ซึนเดเระ (Tsundere) : เป็นคำที่พบเห็นกันบ่อยขึ้น แต่เดิมใช้กับตัวการ์ตูนที่แข็งกระด้างต่อตัวเอกแต่แรก (Tsun Tsun = เย็นชา) แล้วกลายมาเป็นหลงรักตัวเอกในภายหลัง (Dere Dere = อ่อนหวาน) เป็นรูปแบบตัวละครที่ได้รับความนิยมมากจนถึงปัจจุบัน แต่ยุคหลังความหมายกว้างขึ้น เหลือเพียงตัวละครที่ปากไม่ตรงกับใจ ในไทยเห็นกันบ่อยขึ้น ในเว็บไซต์หรือเว็บบอร์ดที่มีเกิดดราม่าขึ้น ซึ่งหมายถึง “คนที่ตอบอย่าง แต่(รู้นะว่า)ในใจคิดอีกอย่าง”
โมเอะ (Moe) : คำเฉพาะในญี่ปุ่น ความหมายเดิม คือ ตัวละครที่เห็นแล้วถูกใจเป็นพิเศษ (ในรายการญี่ปุ่น อาจลากเสียงยาวเป็น โมเอ้) ปัจจุบันค่อนข้างกว้างขึ้น อาจรวมไปถึงคนจริง และความหมายเปลี่ยนไปทางน่ารักมากกว่าความหมายเดิม
ส่วนศัพท์ขั้นที่ลึกๆ เฉพาะทางหน่อย ดูได้จากใน Link ด้านล่าง
ภาษา OTAKU ( โอตาคุ ) วันละคำ # 1ภาษา OTAKU ( โอตาคุ ) วันละคำ # 2
ภาษา OTAKU ( โอตาคุ ) วันละคำ # 3
ตัวอย่าง (ขอบคุณภาพประกอบจากเว็บ ani-mini.com)
คำว่าโอตาคุ (オタク ) ในภาษาญี่ปุ่น ถ้าแปลแบบตรงตัวจะ ได้ความหมายว่า "บ้าน" หรือ "สุขภาพ" ขึ้นอยู่กับกลุ่มคนที่กำลังพูดด้วยหรือสถานที่ ดังนั้นคำว่าโอตาคุ จะมีความหมายสแตนดาร์ดของมัน และความหมายที่เกิดจากการตีความของแต่ละคนแต่ละกลุ่มด้วย ซึ่งก็สามารถแปลได้ว่า โอตาคุ คือ กลุ่มบุคคลผู้ซึ่งลุ่มหลงในโลกแห่งการ์ตูน และ อนิเมชั่น
กลุ่มคนเหล่านี้จะมีความสามารถในการเก็บเกี่ยวการ์ตูนหรืออนิเมชั่นในระดับ rare จากสถานที่ต่างๆได้อย่างไม่ยาก จะเห็นได้ว่าบางคนมีของสะสมเป็นระดับ Ultimate Rare เยอะมากๆ และด้วยความหมกมุ่นอย่างหนักในโลกของอนิเมชั่น ทำให้คนเหล่านี้ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่าง"เด็ก"ผู้หญิงในชีวิตจริงกับในอนิเมชั่นได้ ทำให้การรับรู้ด้านความสวยงามเกี่ยวกับผู้หญิงจริงๆสูญเสียไป
พวกนี้จะคิดว่า"เด็ก"ผู้หญิงที่น่ารักคือผู้ที่มี หูแมว หูหมา หูกระต่าย ชุดเมด เท่านั้น สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้กลายมาเป็นพวก โอตาคุ ส่วนมากจะมาจาก การที่ไม่สามารถสมหวังในความรัก ( อกหัก , สาวไม่แล ) ดังนั้น จึงต้องมาปลอบประโลมตัวเองด้วยโลกสมมุติที่ตัวเองสร้างขึ้นจากความใฝ ่ฝันและหลงใหลในตัวละครของการ์ตูนและอนิเมชั่น เรียกได้ว่า พวกนี้คือพวกที่บ้าการ์ตูนนั่นเอง
สถานที่ที่จะพบเห็นชาวโอตาคุ
- สะพานเหล็ก แถวภิรมย์พลาซ่า โดยเฉพาะแถวร้าน High Media จะพบเห็นได้เป็นฝูง
- มาบุญครอง ชั้น 6 บริเวณทางขึ้นไปโรงหนัง SFX ด้านฝั่งที่มี เกมส์ PS2 และเกมส์ตู้ ชั้น 7 บริเวณโดยรอบโรงหนัง SFX
- เซ็นทรัลลาดพร้าว จะพบเห็นได้ตามชั้นใต้ดินบริเวณที่ขาย หนังสือญี่ปุ่นมือสอง
- สยามเซ็นเตอร์ ร้าน Fantasia ซึ่งเป็นร้านที่ขายของแพง แต่ก็ จะพบเห็นเหล่าโอตาคุได้ไม่ยาก
- Worldtrade Center ร้าน Kinokuniya แหล่งหนังสือนำเข้า ชั้นดี
- อัมรินทร์โซโก้ ร้านโตเกียวโด ร้านแบบเดียวกับ Kinokuniya เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการสั่งหนังสือของเหล่าโอตาคุ
- เซ็นทรัลสีลม ช่วงประมาณชั้น 3 ชั้น 4 ไม่แน่ใจว่าชื่อร้าน อะไร
- เดอะมอลล์รามคำแหง3 ชั้นบนสุดเท่าที่คนทั่วไปขึ้นไปได้ ในบริเวณ Food Center ช่วงด้านหลังห้างฝั่งขวามือ ( ในกรณี มองจากด้านหน้าไปข้างหลัง ) ร้าน J. Shop ฯลฯ
ลักษณะที่ชี้ชัดว่า นี่แหละชาวโอตาคุ
- จะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือการ์ตูนโดยไม่สนใจว่าจะเป็น เวลาไหน แม้แต่เวลาเดิน สังเกตได้ว่าพวกนี้เดินอ่านหนังสือ ไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจว่าจะชนใครหรือเปล่า
- เมื่อชวนคุย ถ้าคุยเรื่องการเมือง เค้าจะเอากันดั้มมาอ้างอิง ถ้าคุยเรื่องแฟชั่น ก็จะพูดถึงชุดครอสเพลย์และชุดเมด ถ้าชี้เด็กผู้หญิงน่ารักให้ดู ก็จะพล่ามแต่เรื่อง L(Lolicon) และ Y(Yaoi, Yuri) แต่ถ้าพูดเรื่องเคนชิโร่ พวกนี้ตะโกนว่า "จ๊าก K"แล้วเดินหนีคุณไป
- ถ้าเกิดเป็นคนรู้จักบังเอิญเจอพวกนี้ แล้วตะโกนเรียกเค้า เค้าจะไม่ตอบ ไม่สนใจ เพราะกำลังท่องชื่อตัวละครอยู่
- ถ้าเกิดบังเอิญได้ยินชื่อญี่ปุ่นจากคนที่หน้าตาค่อนไปทางประเทศเพื่อนบ้านให้รู้ได้เลยว่านั่นแหละ ใช่
- 50% ในเครื่องคอมพวกนี้จะมีแต่เกมส์และการ์ตูนอนิเมชั่น นอกนั้นเป็น Ms office
- คติประจำใจพวกนี้คือ " ตัวตายไม่ว่า ขอข้าดูอนิเมเถอะ "
เครดิด เว็บชีซ่า
โอะตะกุ (ญี่ปุ่น: おたく otaku ?) เป็นคำภาษาญี่ปุ่น เป็นคำเรียกบุคคลอีกประเภท (โดยมากจะหมายความถึงชายหนุ่มเป็นหลัก) ที่มีความสนใจในสิ่งที่ตนชอบ (มักหมายความถึงอะนิเมะ, มังงะ หรือเกม) อย่างเกินปกติ และมีความสามารถในการเข้าสังคมไม่สูง เดิมทีนั้น โอะตะกุ มีความหมายว่า "บ้านของคุณ" ต่อมาก็ถูกนำมาเรียกใช้กับแฟนคลับอะนิเมะ มังงะ |
โอตาคุ Otaku,ヲタク
ชื่อวิทยาศาสตร์ Lolitasis Otakuhuadorตั้งชื่อโดย Bob Overlord, ค.ศ. 1970สถานะ อนุรักษ์สถานะ : สูญพันธุ์จากธรรมชาติ
คำว่าโอตาคุ (オタク) ในภาษาญี่ปุ่น มาจากคำว่า Taku ซึ่งแปลว่าบ้าน ซึ่งเป็นคำสุภาพ หลังๆเริ่มเพี้ยนความหมายมาเป็นเช่นเดียวกับคำว่า Mania ที่แปลว่าผู้ที่คลั่งไคล้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ แต่ส่วนใหญ่จะมักใช้กับพวกที่บ้าการ์ตูนซะมากกว่า เป็นความหมายที่ค่อนข้างไม่ดีภาพพจน์ของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เมื่อให้ Image จะได้ประมาณว่า เพศชาย ตัวอ้วน ๆ สิวเขรอะ ๆ อาจใส่แว่น ผมเผ้ารุงรังไม่สระผม กลิ่นเหงื่อโชย เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ แบกเป้ จริงๆแล้วโอตาคุไม่จำเป็นต้องมีลักษณะที่กล่าวไว้ก็ได้ หน้าตาดีก็มี และก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชาย เพียงแต่ไอ้ส่วนของโอตาคุผู้ชายจะเยอะกว่ามากนั่นเอง แต่จะมีผู้มาล่าพวกโอตาคุคือสังคังแมน
ซึ่งก็สามารถแปลได้ว่า โอตาคุ คือ กลุ่มบุคคลผู้ซึ่งลุ่มหลงในโลกแห่งการ์ตูน และ อนิเมชั่น กลุ่มคนเหล่านี้จะมีความสามารถในการเก็บเกี่ยวการ์ตูนหรืออนิเมชั่นในระดับ rare จากสถานที่ต่างๆได้อย่างไม่ยาก และด้วยความหมกมุ่นอย่างหนักในโลกของอนิเมชั่น ทำให้คนเหล่านี้ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่าง "เด็กผู้หญิง" ในชีวิตจริงกับในอนิเมชั่นได้ ทำให้การรับรู้ด้านความสวยงามเกี่ยวกับผู้หญิงจริงๆสูญเสียไป พวกนี้จะคิดว่า "เด็กผู้หญิง" ที่น่ารักคือผู้ที่มี หูแมว หูหมา หูกระต่าย ชุดเมด เท่านั้น
พวกนี้คือ Otaku2p ยกระดับ ชาตินี้มันจะไม่สนผู้หญิงจริงๆ แล้ว (แต่จริง ๆ คือผู้หญิงไม่สน) โดยมันจะเฝ้าบูชาสาวน้อยจาก Anime อย่างถวายหัว
2p ย่อมาจาก Too Parry หมายถึง หลีกหนีแล้วซึ่งความจริงทุกประการ โอตาคุเหล่านี้จะมีอาการนับถืออนิเมขึ้นสมอง หากมีใครมากล่าวว่าร้ายแก่อนิเมเรื่องโปรดจะเกิดอาการโกรธลุกเป็นไฟจนแทบจะกินเลือดกินเนื้อ โอตาคุเหล่านี้จะคุยกับคนธรรมดาไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะเขาจะพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ไม่อาจแกะข้อความออกมาได้
สมองส่วนใหญ่ของโอตาคุเหล่านี้ จะใช้จดจำแต่ข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างเต็มแน่นเอี๊ยด ซึ่งอาจไม่มีเรื่องที่มีสาระอยู่เลย
ในทางด้านบวกนั้น โอตาคุ อาจหมายถึงแฟนพันธุ์แท้ ซึ่งมีความรู้ความสามารถ สามารถจดจำในสิ่งที่ตนเองสนใจเป็นพิเศษ
สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้กลายมาเป็นพวก โอตาคุ ส่วนมากจะมาจาก การที่ไม่สามารถสมหวังในความรัก (อกหัก, สาวไม่แล) ดังนั้น จึงต้องมาปลอบประโลมตัวเองด้วยโลกสมมุติที่ตัวเองสร้างขึ้นจากความใฝ่ฝันและหลงใหลในตัวละครของการ์ตูนและอนิเมชั่น เรียกได้ว่า พวกนี้คือพวกที่บ้าการ์ตูนนั่นเอง
OTAKU หรือ โอคาคุ มีผู้ให้คำนิยามตามตัวอักษรดังต่อไปนี้
O obnoxious สันดานแย่ ไม่น่าคบ
T tacky ซกมก
A aggravate น่ารำคาญ
K klutz สมองกลวง
U ugly อุบาทว์
ดังนั้นโอตาคุแปลได้ว่า...
ประวัติศาสตร์ของโอตาคุ
ว่ากันว่าเอามาจากชื่อของชาวยุ่นปี่คนหนึ่ง ซึ่งคลั่งไคล้การ์ตูนสาวน้อยเข้าขั้นวิปริต ถึงกับขังเพื่อนนักเรียนหญิงในบ้านแล้วกระทำเลียนแบบอนิเมแนวฮาเร็ม จนเป็นคดีฉาวโฉ่ และชื่อโอตาคุจึงได้แพร่หลายไปทั่วโลก (ซึ่งคล้ายๆกับกรณีของคำว่าตุ๋ย ซึ่งเกิดจากนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเล่นว่าตุ๋ยเหมือนกัน)
ลักษณะจำเพาะของโอตาคุ
หากเป็นชายต้องเป็นแนวสาวน้อยตาโต ฮาเร็ม พระเอกมีแต่สาวๆมารุมล้อม ทั้งสาวแว่น สาวอกโต สาวเรียบร้อย น้องสาว คุณหนูผู้เย่อหยิ่ง ฯลฯ และถ้าโอตาคุชายผู้นั้นชอบเล่นซุปเปอร์โรบอทด้วยล่ะก็ จะเพิ่มพลังความเป็นโอตาคุอีก 30%
สำหรับโอตาคุหญิงนั้นก็จะเป็นแนว Boy-Love หรือแนว Y เรื่องรักๆใคร่ๆระหว่างผู้ชายด้วยกัน ใกล้ชิดสนิทสนม กอดกัน หอมแก้มกัน และอาจจะไต่ระดับไปถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักกันเลยทีเดียว
คนพวกนี้สามารถพบได้ตามงานการ์ตูนทั่วไปโดยเฉพาะงานที่มีคอสเพลย์ โอตาคุคือกลุ่มเป้าหมายหลักในการหารายได้ของวงการอนิเม หรือเรียกได้ว่าคือเส้นเลือดหล่อเลี้ยงวงการอนิเมแต่อีกด้านนึงก็ค่อย ๆ ทำลายวงการอนิเมไปทีละช้าๆเช่นกัน
วิธีสังเกตโอตาคุ
- ไม่สนใจผู้หญิงอื่น นอกจากนางในฝันในอนิเมเท่านั้น
- จะก้มหน้าอ่านหนังสือการ์ตูนลูกเดียว โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ถ้าเดินไปอ่านไปก็ไม่สนใจว่าจะเดินชนใคร
- ถ้าชวนคุยเรื่องการเมือง ก็จะเอากันดั้มมาอ้าง ถ้าชวนคุยเรื่องแฟชั่น ก็จะพูดถึงชุดคอสเพลย์ ไม่ก็ชุดเมด บลาๆๆ
- ถ้าชี้ให้ดูเด็กผู้หญิง ก็จะพล่ามแต่เรื่อง L (Lolicon) และ Y (Yaoi,Yuri)
- แต่ถ้าพูดเรื่องเคนชิโร่ พวกนี้ตะโกนว่า "จ๊าก K"แล้วเดินหนีคุณไป
- ถ้าเกิดเป็นคนรู้จักบังเอิญเจอพวกนี้ แล้วตะโกนเรียกเค้า เค้าจะไม่ตอบ ไม่สนใจ เพราะกำลังท่องชื่อตัวละครอยู่
- ถ้าเกิดบังเอิญได้ยินชื่อญี่ปุ่นจากคนที่หน้าตาค่อนไปทางประเทศเพื่อนบ้านให้รู้ได้เลยว่านั่นแหละ ใช่
- มากกว่า 50% ของพื้นที่ในคอมจะมีแต่เรื่องเกมส์และอนิเม นอกนั้นเป็นระบบปฏิบัติการ และ MS Office
- สะพายเป้ใบเบ้อเริ่ม.. ไม่รู้ว่าข้างในใส่อะไรไว้นักหนา
- แต่งตัวเชยๆ บ้างก็ใส่แว่น ชอบหลบหน้าผู้คน
- คติประจำใจพวกนี้คือ " ตัวตายไม่ว่า ขอข้าดูอนิเมเถอะ "
- ขาด
กามาการ์ตูนไม่ได้ เหมือนขาดอาหาร... - คิดถึงเรื่อง
กามาการ์ตูนเกือบ 75% ของความคิดทั้งวัน - แต่งแฟนฟิค แต่งคอส เขียนโดจิน วาดแฟนอาร์ต <<<ทำอะไรซักอย่างใน 4 อย่างนี้ ทำแน่ๆสาบาน อาจทำครบทั้ง 4 ข้อเลยก็ได้
- มีการ์ตูนที่ชอบที่สุดแบบยกย่องเทิดทูนคลั่งไคล้อยู่อย่างน้อยสามเรื่อง
- มีตัวละครที่รักสุดๆในชีวิตเป็นหนึ่งเลย และมีประปรายอีกเยอะ=_=
- สละเงินซื้อของการ์ตูนได้ไม่มีเสียดายเลย เงินกินข้าวของทั้งเดือนก็ยอม! (ไปตายเอาดาบหน้า การ์ตูนข้ามาก่อน!!)
- ถ้านึกอยากได้อะไรขึ้นมาก็จะซื้อเลยโดยแทบไม่ต้องมีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น เหตุผลเดียว ก็ตูชอบอ่ะ ซื้อแล้วหนักกระบาลมรึงเรอะ..
- รอบรู้เรื่องการ์ตูนไป (เกือบ) ทุกอย่าง ตามข่าวการ์ตูนไวมาก ใช้ภาษาโอตาคุ
- เกลียดพวกสามมิติ (ดารา วงการบันเทิง น้ำเน่า) บางคนอาจเฉยๆหรือแค่รำคาญ แต่จะไม่สนใจพวกนี้เลย
- ไม่มีแฟน (เรารักตัวการ์ตูนก็พอ!)
- คลุกคลีกับการ์ตูน นั่งดู + อ่านได้ทั้งวัน ข้าวปลาลืมกินก็มี
- เคยโหลดพวกสแกนคอมมิค แฟนซับ บิทอนิเม อย่างน้อยสิบครั้ง
- เชิดชูอากิฮาบาร่าเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์
- เกิดความรู้สึกโมเอะ (สุขใจสุดๆเหมือนไฟในตัวลุกโชน) เมื่อได้อยู่ในที่ๆมีการ์ตูน ได้ดูการ์ตูนหรืออ่านการ์ตูน
- เมื่อดูการ์ตูนหรืออ่านการ์ตูนจะดูเหมือนหลุดไปอีกโลกนึง
- ไปงาน Event การ์ตูนได้แทบทุกงานไม่มีขาด และหอบข้าวของที่ซื้อมาเป็นประจำ
- จะพูดไม่หยุดเมื่อพูดถึงการ์ตูน
- สามารถดูอนิเมได้ทั้ง season (เผลอๆ อาจ 2 seasons) ได้ในเวลาวันเดียว
- ในห้องจะเต็มไปด้วยการ์ตูน ทั้งของสะสม หนังสือการ์ตูน อนิเม ฟิกเกอร์ การาจคิท โปสเตอร์
หนังโป๊และอีกสารพัด - อ่าน&ดูการ์ตูนแบบจริงจังอย่างน้อย เกือบทุกเรื่องที่รู้จัก(โอตาคุจะรู้จักการ์ตูนโดยเฉลี่ยคนละ 100 เรื่อง ถึงจะคิดว่าไม่มากขนาดนั้นมั้ง?แต่ถ้าจับมานั่งลิสต์ซักพัก ดีไม่ดี อาจเกิน 100 ด้วยซ้ำไป)
- ซื้อการ์ตูนหรือเกม(หรือแม้แต่ไลท์โนเวล)ที่ชอบคราวละ 3 ชุดขึ้นไป (ชุดแรกไว้ดู/เล่น ชุดที่สองไว้เก็บสะสม ที่เหลือไว้ให้คนอื่นๆยืมหรือแจกจ่ายเพื่อเพิ่มจำนวนสาวก!)
- มีฐานะที่จน รวย ก็ได้(ไม่ค่อยมีปานกลาง)
- ใจดี(555+)
- กินโออิชิแทนน้ำเปล่า
- มีเครื่อง PSP
- ที่อาจจะเป็นข้อยกเว้นในกรณีนี้คือถ้าเขาเป็นนักเขียนเสียเองและเพิ่งได้เผยแพร่เป็นเรื่องแรก อันนี้ให้พึงเข้าใจว่าแค่เห่อ
- อย่างไรก็ตาม ความไม่เท่าเทียมทางสังคมยังมีอยู่ สาวกของยอดมนุษย์เจเซิร์สแมนนั้นคลั่งไคล้เรื่องนี้ถึงขนาดตีพิมพ์ภาคนิยายไว้แจกฟรี รวมถึงได้รวมตัวกันจัดมีตติ้งทุกวันอาทิตย์ แต่ไม่มีใครเรียกสาวกของยอดมนุษย์เจเซิร์สแมนว่าโอตาคุเลย
- ข้อควรสังเกต โอตาคุที่หมั่นแจกจ่ายหรือให้คนอื่นๆยืมสมบัติเป็นนิจนั้น จะไม่เป็นที่รังเกียจของคนรอบข้าง
- อย่างไรก็ตาม ความไม่เท่าเทียมทางสังคมยังมีอยู่ สาวกของยอดมนุษย์เจเซิร์สแมนนั้นคลั่งไคล้เรื่องนี้ถึงขนาดตีพิมพ์ภาคนิยายไว้แจกฟรี รวมถึงได้รวมตัวกันจัดมีตติ้งทุกวันอาทิตย์ แต่ไม่มีใครเรียกสาวกของยอดมนุษย์เจเซิร์สแมนว่าโอตาคุเลย
- ที่อาจจะเป็นข้อยกเว้นในกรณีนี้คือถ้าเขาเป็นนักเขียนเสียเองและเพิ่งได้เผยแพร่เป็นเรื่องแรก อันนี้ให้พึงเข้าใจว่าแค่เห่อ
สรุปก็ คือ อะไร นั่นเอง
สถานที่ที่จะพบเห็นชาวโอตาคุ
- สะพานเหล็ก แถวภิรมย์พลาซ่า โดยเฉพาะแถวร้าน High Media จะพบเห็นได้เป็นฝูง(กำลังเล่นไพ่เมะอยู่ด้วย) [โดนปิดไปแล้ว ปัจจุบัน พบมากหน้าร้านพี่ดำ]
- มาบุญครอง ชั้น 6 บริเวณทางขึ้นไปโรงหนัง SFX ด้านฝั่งที่มี เกมส์ PS2 และเกมตู้ ชั้น 7 บริเวณโดยรอบโรงหนัง SFX
- เซ็นทรัลลาดพร้าว จะพบเห็นได้ตามชั้นใต้ดินบริเวณที่ขาย หนังสือญี่ปุ่นมือสอง
- สยามเซ็นเตอร์ ร้าน Fantasia ซึ่งเป็นร้านที่ขายของแพง แต่ก็ จะพบเห็นเหล่าโอตาคุได้ไม่ยาก
- Central World ร้าน Kinokuniya แหล่งหนังสือนำเข้า ชั้นดี
- อัมรินทร์โซโก้ ร้านโตเกียวโด ร้านแบบเดียวกับ Kinokuniya เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการสั่งหนังสือของเหล่าโอตาคุ
- เซ็นทรัลสีลม ช่วงประมาณชั้น 3 ชั้น 4 ไม่แน่ใจว่าชื่อร้านอะไร
- เดอะมอลล์รามคำแหง3 ชั้นบนสุดเท่าที่คนทั่วไปขึ้นไปได้ ในบริเวณ Food Center ช่วงด้านหลังห้างฝั่งขวามือ ( ในกรณีมองจากด้านหน้าไปข้างหลัง ) ร้าน J. Shop ฯลฯ
- ร้าน Akiba Kiss ที่เซ็นเตอร์พ้อย เป็นแหล่งรวมโอตาคุและและแฟนพันธุ์แท้เอนิเมะอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย อยู่ที่ Central World
- ร้าน Yumeya ข้างๆ Akiba Kiss
- ร้านขายหนังสือ
โป๊การ์ตูนชั้นนำทั่วไป - ร้านเน็ตทั่วไป(อย่างงกับกลุ่มเกรียน เนียนๆ)
- ตาม งานคอสเพลย์ (อาจพกกล้องไปแอบถ่ายนางคอสเพลย์ต่าง ๆ ด้วย)
- ทุกที่นั่นแหละ เพียงแค่มองไม่ออกเฉยๆ
- โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ [2เดือนครั้ง/เดือนคู่]
- ในกระจกเมื่อคุณหันไปมองมัน [คนเขียนแอบมั่นเล็กๆว่าถ้าไม่ใช่โอตาคุเอ็งไม่เข้ามาอ่านหรอก อย่าทำซึน >w<]
สิ่งที่ไม่ถือว่าเข้าข่ายการเป็นโอตาคุ
ในปัจจุบัน มีคนหลายคนที่เพียงชื่นชอบการ์ตูนหรืออนิเมะบางเรื่อง ก็เรียกตนเองว่าโอตาคุ ซึ่งถือได้ว่าเป็นความเข้าใจที่ผิด หากอยู่ในระดับนี้ยังไม่ถือว่าเป็นโอตาคุแต่อย่างใด สำหรับสิ่งที่ถือได้ว่ายังไม่เข้าขั้นการเป็นโอตาคุมีดังต่อไปนี้
- ชื่นชมการ์ตูน มังกะ อนิเมะแค่เพียงไม่กี่เรื่อง และเป็นชื่นชอบจากการตามกระแส
- ดูอย่างเดียว แต่ไม่ได้เสียเงินเพื่ออย่างอื่นที่สิ้นเปลืองกว่าเช่นฟิคเกอร์ หรือสั่งซื้อบลูเรย์ลิมิตอิดิทชั่นของเรื่องนั้น
- เงินในกระเป๋ามากกว่า 50% ไม่ได้ใช้ไปกับการ์ตูน
- ยังพูดกับคนอื่นรู้เรื่อง
ศัพท์เฉพาะของโอตาคุ
สูตรตารางธาตุเคมีสไตล์โอตาคุ
ที่พิมพ์ตัวหนาคือสัญลักษณ์ธาตุนะ - -บางชื่อขอสลับตำแหน่งนามสกุลกับชื่อนะ จะได้ตรงกับสัญลักษณ์ธาตุ
คาบที่ 1 (แนวนอนนะ)ไฮโดรเจน - Haruhi
คาบที่ 2คาร์บอน - C.C.ไนโตรเจน - Nanoha
คาบที่ 3โซเดียม - Nagatoซัลเฟอร์ - Sakiคลอรีน - Clannadอาร์กอน - Air
คาบที่ 4โพแทสเซียม - Konataแคลเซียม - Canaanสแคนเดียม - School daysไทเทเนียม - Taigaวานาเดียม - Vocaloidแมงกานีส - Minami Keแกลเลียม - Galaxy angelอาร์ซีนิค(สารหนู) - Asukaคริปตอน - Kara no kyoukai
คาบที่ 5สตรอนเทียม - Sora no otoshimonoอิตเทรียม - Yuiเซอร์คอนเนียม - shiZuruโมลิบดีนัม - Mioเทคนีเซียม - onegai Teacherโรห์เดียม - Reimu hakureiพัลลาเดียม - Polide อินเดียม - Indexดีบุก - Shanaพลวง - Saberซีนอน - idolmaster Xenoglossia
คาบที่ 6ซีเซียม - Card capter sakuraแบเรียม - Bakemonogatariแลนทานัม - Lee rankaรีเนียม - Renaแทลเลียม - Teleport (ความสามารถของคุโรโกะ)
คาบที่ 7ฟรานเซียม - Frandle (ธาตุนี้เกิดมาเพื่อฟรานโดยเฉพาะ )เรเดียม - Rei ayanamiดุบเนียม - Dragon ballซีบอร์เกียม - Shugo caraแฮสเซียม - Hidamari sketchดาร์มสแทดเทียม(เอกา-แพลตินัม หรือ อุนอุนนิเลียม - -) - ก็ Ds น่ะแหละ -*-เรินด์เกเนียม(อุนอุนอุนเนียม - -) - Railgun (คงไม่ต้องบอกนะเพราะอะไร)
แลนทาไนด์ (แถวแยกที่ 1)เพรซิโอดิเมียม - Pretty cureนีโอดิเมียม - Nadekoซามาเรียม - Sailor moonยูโรเพียม - Eureka sevenเทอร์เบียม - Tabasaโฮลเมียม - Holoอิตเตอร์เบียม - Yotsubaลุเทเนียม - Luise
แอคทิไนด์ (แถวแยกที่ 2)โพรแทคทีเนียม - Pants (เข้ามาก )เนปทุเนียม - Nipa῀῀เบอร์เคเลียม - Baka testเมนเดเลเวียม - Madobe nanami
จำได้แค่นี้อ่ะ ที่เหลือก็มีพวกคุ้นๆ กับจำชื่อไม่ได้เท่านั้นแหละ
จากคุณ : JBoyMaso
คำศัพท์ที่ใช้ในวงการโอตาคุ
โดจินของเหล่าโอตาคุ
- Anime (อนิเมะ) - ย่อมาจากอนิเมชั่น หมายถึงภาพเคลื่อนไหว ถ้าเป็นประเทศอเมริกาจะใช้คำว่า Cartoon
- OVA / OAV (โอวีเอ / โอเอวี) - Original Video Animation / Original Animation Video เป็นพวก Anime ที่ไม่ฉายทาง TV แต่ทำ VCD / DVD ขายเลย (ส่วนใหญ่จะเป็นแบบสดใสไร้หมอกควัน)
- OAD (โอเอดี) - Original Animation DVD ความหมายเหมือน OVA / OAV ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น DVD (แล้วถ้าเป็น Blu-ray ล่ะ?)
- ONA (โอเอ็นเอ) - Original Net Animation ความหมายเหมือน OVA / OAV แต่ปล่อยให้ดูผ่านเน็ตเท่านั้น
- Manga (มังงะ) - หมายถึงหนังสือการ์ตูน ถ้าเป็นประเทศอเมริกาจะใช้คำว่า Comic
- Doujin, Doujinshi (โดจินชิ) - ของทำมือ เช่นการ์ตูนทำมือ ซอร์ฟเกมส์สร้างเอง พวงกุญแจ ฯลฯ แต่มักใช้หมายถึงการ์ตูนทำมือ โดจินพวกนี้มักจะมีราคาแพงเพราะทำออกมาจำกัด มีหน้าปกและกระดาษอย่างดีถ้าพวกที่ซีร็อกซ์เอาจะถูกหน่อย แต่จำนวนหน้าและลายเส้นไม่ได้ดีกว่าพวกการ์ตูนเล่มละ 40 เลย หลังๆถ้าพูดถึงโดจินมักจะถูกเหมารวมว่าเป็นการ์ตูนโป๊(H-Doujin) ซะมากกว่า
- Figure (ฟิกเกอร์) - โมเดลลงสีสำเร็จราคาแพงขนาดใหญ่ ส่วนมากราคาตกประมาณ 1500 บาทขึ้นไป
- Kachapong (กาจาปอง ) - มาจากคำว่า "กาจ๊าง เสียงตอนโมเดลบรรจุไข่ตกลงมา " เป็นฟิกเกอร์ลงสีสำเร็จบรรจุไข่ ราคาถูกกว่าฟิกเกอร์ประเภทข้างบนมาก ตกลูกละ 80 บาท มีเป็นชุดชุดละประมาณ 5-6 ตัวบางชุดจะมีตัวลับซ่อนอยู่ด้วย
- Cosplay (คอสเพลย์) - ย่อมาจากคำว่า Costume Playing หมายถึงการแต่งตัวเลียนแบบตัวละครหรือตัวการ์ตูนต่างๆที่ชื่นชอบการคอสเพลย์โดยการห้อยผ้าขนหนูสีเหลืองบริเวณลำคอ หรือถือดาบที่ทำเองอย่างเดียวเดินร่อนรอบงาน ถือว่าเป็นปมด้อยของผู้คอสนั้นๆ (ความเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้า ) - ทุนน้อย,ไม่กล้า - อ่อน
- Layer (เลเยอร์) - ย่อมากจาก Cosplayer แปลว่านักคอสเพลย์ จะคอยไปคอสเพลย์ตามงานการ์ตูนเพื่อให้คนอื่นจำได้ (ครั้งสองครั้งจึงไม่นับว่าเป็น Layer) ส่วนใหญ่เป็นพวกฐานะดีบ้านมีอันจะกิน เพราะชุดคอสราคาแต่ละชุดส่วนมาก 1000 บาทขึ้นไปและไม่ค่อยซ้ำในแต่ละงานาการด้วย
- Coslover (คอสเลิฟเวอร์) -มีความหมายเหมือนเลเยอร์ทุกอย่าง แต่จะใช้กับพวกคนหน้าตาไม่ดี(หน้าเหี้ย) บางทีหน้าตาบางคนอาจจะเหมือนแรงงานอพยพ บางคนอาจจะเหมือนพระเจ้าเหา แต่อยากแต่งคอสเป็นพระเอกนางเอกของเรื่องที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งมักจะโดนโอตาคุจับกิน สาปแช่ง ด่าทอ ร่อแร่ ฯลฯ อยู่เสมอ
- Idol (ไอดอล) - คำแสดงยศชั้นสูงของเลเยอร์ เมื่อคอสเพลย์หลายๆครั้งเข้าจนคนจำได้และ + กับมีหน้าตาดีกว่าปกติ จะได้เลื่อนยศมาเป็น Idol ได้
- Gardian (การ์เดี้ยน) - องครักษ์พิทักษ์ไอดอล มีทั้งแบบร้องขอและแบบไม่ร้องขอ โดยอย่างหลังส่วนมากเป็นพวกโอตาคุชายโรคจิต ที่ชื่นชอบเป็นแฟนคลับของไอดอลคนนั้นๆ
- Pramool Webboard (ประมูลเว็บบอร์ด) - แหล่งพูดคุย(สื่อสาร)อีกแหล่งของโอตาคุ เป็นลักษณะค่อนข้างสาธารณะ โดยแบ่งเป็นห้องๆให้คนมาตั้งหัวข้อเรื่องต่างๆ เพื่อมาพูดคุย แสดงความคิดเห็น รวมทั้งทะเลาะระหว่างสมาชิกบอร์ดด้วยกัน
- ตุรกี (Tirkx) - แหล่งรวมอนิเมะโหลดตรง (Direct Download) กรุณาอย่าเผยลิงค์ในที่สาธารณะ!
- Bakadetsu - แหล่งรวมอนิเมะแบบโหลดบิท (Open Torrent) แบบถูกกฎหมายเพียงแห่งเดียวของประเทศไทยในขณะนี้ (ถ้าไม่นับรวม Bit@nime ที่ปิดตัวไปชั่วคราวแบบไม่มีกำหนดเปิด) โหลดได้โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกและไม่มีค่าเรโช ไม่ผิดกฎหมาย (ไทย) เพราะมีเฉพาะแฟนซับที่ยังไม่มีลิขสิทธิ์ (LC) ในไทย จะเรียกว่าเป็น Tirkx แบบบิทก็ได้
- หอสมุดโตเกียว (Tokyo-Tosho) - แหล่งรวมอนิเมะแบบโหลดบิท (Open Torrent) โหลดได้โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกและไม่มีค่าเรโช แต่เป็นบิทนอก เนื่องจากเว็บนี้มี "ของมืด" ให้โหลดกันด้วย โอตาคุชาวไทยจึงไม่นิยมเอาลิงค์มาโพสต์ตามเว็บบอร์ด (เพราะอาจผิดกฎและโดนแบนได้) แต่จะใช้วิธีเรียกเว็บนี้ด้วยชื่อโค้ดเนมว่า "หอสมุดแห่งชาติ" ก็เป็นอันรู้กัน
- เหมียวท่อ / เหมียวทะเล้น (Nyaa Torrents) - เหมือนหอสมุดโตเกียว และบางครั้ง Torrent ในหอสมุดโตเกียวก็มาจากเหมียวท่อนั่นแหละ
- Fansub (แฟนซับ) - การ์ตูนแปลโดยกลุ่มผู้ชื่นชอบที่ทำด้วยใจรัก, สิ่งผิดกฏหมายที่ทำให้ถูกต้องโดยการเอามาเผยแพร่ในประเทศที่ไม่มีลิขสิทธิ์ แฟนซับของแท้นั้นต้องแจกจ่ายให้โหลดไปชมกันได้ฟรี ๆ โดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทนทางการค้าหรือหากำไร (แต่ก็ไม่วายที่จะโดนมือดีฉกไปไรท์ใส่แผ่นขายอยู่ดี)
- License (ไลเซ่น) - ลิขสิทธิ์, คำศัพท์ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ โดยเจ้าของจะสามารถทำกับมันอย่างไรก็ได้ ซึ่งที่ทำให้คนทั่วไปอดดู และหันไปสั่งตรงจากต่างประเทศ
- Pirate (ไพเรท) - ของไม่มีลิขสิทธิ์ ของขโมยมา ถ้าเป็นหนังสือการ์ตูนหน้าปกมักจะยั่วยุกามารมณ์แต่ข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง
- Spoiler / Spoil (สปอยล์เลอร์ หรือ สปอยล์) - การเล่าเรื่อง การเล่าฉากสำคัญๆ ก่อนที่จะรู้ หรือบอกให้รู้ว่าฉากจบเป็นอย่างไร (ทำให้คนที่ยังไม่ได้ดูและกำลังจะดูหมดสนุกและเซ็งไปในทันที)
- ปาหมอน - ฉากจบในตำนานของการ์ตูนเรื่อง ชาร์แมนคิงที่อุตส่าห์แต่งมาตั้งนาน สนุก และมีรวมเล่มเป็นสามสิบสี่สิบเล่ม แต่ตอนจบดันจบแบบไม่เคลียร์ ด้วยการ ปาหมอน ในตอนสุดท้าย
- ไนซ์โบ๊ท (Nice Boat) - มาจากอนิเมะเรื่องสคูลเดย์ (วันโรงเรียนส์)ในเวลาก่อนที่จะฉายตอนสุดท้ายนั้นมีเหตุฆาตกรรมแฟนโดยมีดฟันที่คอและตัดหัวมาเก็บไว้ จึนทำให้ผู้ฉายคิดว่า อาจจะโดนข้อหาเป็นเหตุยุยงให้เกิดอาชญากรรมขึ้นมา เลยจัดการแก้ปัญหาโดยการเอาภาพเรือมาให้ดูแทนภาพฆาตกรรม ฟันหัวดังกล่าว (ทำไปได้ = =")
- VCD - สื่อรูปแบบหนึ่งที่นำออกมาขายเพื่อทดลองว่าจะทำออกมาเป็น DVD ดีหรือเปล่า, สื่อราคาถูกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการการ์ตูนโดยไม่ใส่ใจการพากย์และคุณภาพมากนัก
- DVD -สื่อรูปแบบหนึ่งที่โอตาคุยอมเสียเงินมากกว่า 3 เท่าของ VCD เพื่อเอาเสียงพากย์ต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น แน่นอนว่าคุณภาพของภาพและเสียงย่อมดีกว่า VCD เช่นกัน
- Censored (เซ็นเซอร์) - การปิดบังซ่อนเร้น เหยื่อที่โดนมักเป็นหนังสือและVCDการ์ตูน โอตาคุหลายคนจะออกมาต่อต้านการกระทำเช่นนี้ของประเทศไทย เพราะว่าทำให้พลังความโมเอะลดลง
- Shonen (โชเน็น) -การ์ตูนผู้ชายทั่วๆไป
- Shojo (โชโจ) - การ์ตูนผู้หญิงทั่วๆไป
- Fujoshi (ฟุโจฉิ)(腐女子)(สาววาย) - เหล่าสตรีพันธุ์โอตาคุผู้มีจินตนาการอันสูงส่ง สามารถจับตัวละครเพศชายใดๆก็ตามตั้งแต่สองคนขึ้นไปมาวายกันได้
คำศํพท์เกี่ยวกับค่าพลังการ์ตูนต่างๆ
- Holy (โฮลี่) - ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ใช้ย่อแนวของการ์ตูนประเภทต่างๆ หลักๆคือ 4 ตัวนี้ ( 4 ธาตุหลักสายพลัง H - O - L - Y)
- E Ecchi(เอ็ตจิ) - ลามกเล็กๆ ทะลึ่งหน่อยๆ
- H Hentai (เฮ็นไท)) -โรคจิต, ลามก ใช้เติมสรรพนามเพื่อเพิ่มความหมายคำว่าโป๊ เช่น H-Doujin (โดจินโป๊), H-Anime (การ์ตูนโป๊), H-Game (เกมส์โป๊) ฯลฯ
- Tentacle (เทนตาเคิล) -ผู้ที่ชอบพวกประเภทหนวดๆ สิ่งที่เป็นเส้นๆ ทั้งหลายแหล่ มักจะปรากฏอยู่ในเกมส์โป๊ เพื่อข้อมูลปกปิด
- Ren-Ai(เรนไอ) - เกมส์จีบสาว, H-เกมส์ แม้จะผิดกฏหมายแต่โอตาคุชายก็เต็มใจที่จะหามาในครอบครอง และหาเหตุผลอันชอบธรรมในการเสพ
- Rape (เรพ) - พวกที่ชอบการข่มขืนกระทำชำเราประเภทฉีกเสื้อผ้า
- Wet (เว็ท) - สายนี้จะชอบแนวความเปียกชื้นเปื้อนเปรอะเลอะไปทั้งหน้าและตา ( อะไรเปียกๆ -*- น้ำอะไรหว่า... )
- (O Obacon (โอบาคอน)) - ผู้ที่ชอบคนที่มีอายุมากกว่า, นมโต --- Ojicon (โอจิคอน) ผู้ที่ชอบชายแก่ ตรงข้ามกะ Shotacon
- (L Lolicon (โลลิคอน)) - ชอบเด็กหญิง ถ้าอายุจัดอยู่ในเกณฑ์โดนข้อหาพรากผู้เยาว์ให้จัดอยู่ในหมวดนี้ (แต่ก็มีคนจัดเกณฑ์ว่า จะอยู่ที่อายุ10 - 14 ปี หรือ หญิงสาวที่มีความสูงไม่เกิน 150 - 155 ซ.ม. รูปร่างขนาดไม่เกี่ยวขอให้น่ารัก )
- Lolita (โลลิต้า) - พวกนิยมชุดสาวน้อยสีหวาน แนวๆ คุณหนูไฮโซ ประมาณยุคอังกฤษสมัยศตวรรษที่ 18-19 เช่นกัน มีโบว์และพู่ฟ่องๆ เยอะๆ
บางพวกนิยมนำมาผสมกับข้างบน ออกมาเป็นคุณหนู... (ปัจจุบันมีคนสับสนระหว่าง Gothic กับ Lolita กันเยอะ คนละอย่างนะจ๊ะ)
- Gothic (โกธิค) - พวกเป็นปลื้มกับสีทึบๆ เป็นพิเศษ ส่วนใหญ่จะเน้นอยู่ที่ ขาว ดำ แดง
- Shotacon (โชตะคอน) - ชอบเด็กชาย ถ้าอายุจัดอยู่ในเกณฑ์โดนข้อหาพรากผู้เยาว์ให้จัดอยู่ในหมวดนี้เช่นกัน
- Y - รักร่วมเพศ แบ่งออกมาอีก 2 ประเภทคือ
- Y Yaoi (ยาโอย) - กลุ่มสงวนพันธุ์ป่าไม้(เดียวกัน) ง่ายๆ ชอบพวกชอบเพศเดียวกันชาย แบ่งสายได้ 2 สายคือ
- Seme YAOI (เซเมะ y สายรุก) เรียกสั้นๆ ว่าเมะ ชอบเข้าทางข้างหลัง
- Uke YAOI (อุเคะ y สายรับ) เรียกสั้นๆ ว่าเคะ ชอบถูกกระทำทางด้านหลัง
- Shonen-ai (โชเน็นไอ) ความรักบริสุทธิ์ระหว่างชายกะชาย [ไม่ติดเรท] - จัดอยู่ในสายขาวนะ
- Y Yuri (ยูริ) - สมาคมอนุรักษ์ดนตรีไทย ง่ายๆ ชอบพวกชอบเพศเดียวกันหญิง แบ่งได้ 2 สายเช่นกัน
- Seme YURI (เซเมะ y สายรุก) เรียกสั้นๆ ว่าเมะ ชอบแสดงตัวเป็นชาย
- Uke YURI (อุเคะ y สายรับ) เรียกสั้นๆ ว่าเคะ ชอบถูกกระทำโดยเพศเดียวกัน
- Shojo-ai (โชโจไอ) ความรักบริสุทธิ์ระหว่างหญิงกะหญิง [ไม่ติดเรท] - จัดอยู่ในสายขาวเช่นกันแม้จะผิดกฏหมายแต่โอตาคุหญิงก็เต็มใจที่จะหามาในครอบครอง และหาเหตุผลอันชอบธรรมในการเสพ
- Y Yaoi (ยาโอย) - กลุ่มสงวนพันธุ์ป่าไม้(เดียวกัน) ง่ายๆ ชอบพวกชอบเพศเดียวกันชาย แบ่งสายได้ 2 สายคือ
- JIN (จิ้น) -มาจากคำว่า Imagine(อิเมจิ้น) แปลว่าจินตนาการ ใช้กับวงการ Y โดยผู้ใช้สามารถจิ้นให้ตัวละครนึงไปมีอะไรกับตัวละครเพศเดียวกันทั้งๆ ที่เนื้อเรื่องหลักจะไม่ได้มีอะไรกันเลยได้
- Harem - (ฮาเร็ม)สายนี้จะเป็นพวกชอบอยู่ห้อมล้อมด้วยสาวๆ สวยน่ารักมากมายแถมด้วยทุกคนมารุมรักอีก - เช่น เนกิมะ
- Gyaku-Harem (逆ハレム) - เหมือนกับแนวฮาเร็มทุกประการ แต่จะเปลี่ยนเป็นหญิงสาวถูกห้อมล้อมด้วยชายหนุ่มหน้าตาดี(ikemen + bishounen) พบใน Ouran Highschool Host Club, Yamato Nadeshiko Shichi Henge และ Otome Games ทั่วไป
- SM Sadism&masokism - กลุ่มคนที่นิยมใช้ โซ่ เทียน แส้ กุญแจมือ ส้นสูง ม้าไม้ โดย Sadism คือผ่ายชอบทำร้ายผู้อื่น และ Masokism คือฝ่ายที่ชอบถูกทำร้าย
- GuRo (กูโระ) - พวกที่ชอบการชำแหละ เลือด ฆ่า เครื่องใน ไส้
- Psycho (ไซโค) - ความหมายตรงตัวหมายถึงพวกที่โรคจิตๆเล็กน้อยถึงปานกลางอีกความหมายหนึ่งหมายถึงพวกพลังจิตร คาแรคเตอร์พวกโรคจิตรอ่อนๆนี้อาจไม่พบเห็นได้มากนัก ยกตัวอย่างที่ดังๆก็เช่น L แห่งเดธโน๊ต เขาคนนี้ก็ติดเชื้อ P เหมือนกัน ส่วนคาแรกเตอร์มนุษย์พลังจิตร เช่น สามพลังป่วนพิทักษ์โลก(ไอ้นี้พลังจิตรทั้งเรื่อง) ไซโคบลาสเตอร์(ไอ้นี้พลังจิตรทั้งเรื่อง) โคอิทซึม(ฮารุฮิ) ไซโครเมทเรอ เอย์จิ(ไอ้นี้พลังจิตรทั้งเรื่อง)
- Mahou (มาโฮ) - กลุ่มคนที่ชอบสาวน้อยเวทมนตร์ - อันนี้แน่นอน การ์ดแคปเตอร์ซากุระ นาโนะฮะ และแม่มดน้อยโดเรมี (ซึ่งมิได้หมายถึงโดเรมี่จากเรื่องโดเรม่อนแต่อย่างใด) และล่าสุดก็สาวน้อยเวท (มืด) (มน) มนตร์ มาโดกะ
- Robot (โรบอท -)กลุ่มคนที่บ้าความเป็นเครื่องจักรกลอย่างเข้าไส้ ซึ่งสามารถที่จะบอกรุ่นความสามารถสรรถนะของหุ่นทุกตัวในโลกออกมาได้ ซึ่งสายนี้ค่อนข้างแยกได้ชัดโดยมีกันดั้ม เป็นผู้นำลัทธิ รองลงมาคือ เอวังเกย์เหลี่ยม - เรียกอีกอย่างว่า Mecha (หุ่นยนต์)
- Real Robot (เรียลโรบอท) - หุ่นยนต์ที่อิงถึงหลักความเป็นจริงในทางวิทยาศาสตร์
- Super Robot (ซูปเปอร์โรบอท) - หุ่นยนต์ที่ไม่อิงหลักความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์ เช่นมีพลังอภินิหาร แปลงร่างได้ ประกอบร่างได้ เป็นต้น
- Computer - พวกชอบแนวคอมพิวเตอร์ที่คล้ายๆ กับมนุษย์ (ตูก็ชอบ) อาจเป็นหนุ่มสาวหน้าตาดีด้วย มีทั้งเป็นโปรแกรม และเป็นตัวเป็นตนในโลกความจริง - เช่น Chobits และ AI love (ดูเหมือนคอมชายจะไม่ค่อยมี)
- Silent (ไซเลนท์) - สายนี้จะเป็นพวกที่ชอบตัวละครพูดน้อย ไม่พูดเลยยิ่งชอบ (แต่ไม่ได้เป็นใบ้นะ - -)และส่วนมากสายนี้ก็จะทำหน้าตาเหมือนคนอมทุกข์ ไม่ค่อยแสดงสีหน้าออกมาให้เห็น (หรือเรียกว่าหน้าตายก็ได้)
- Maid (เมด) -กลุ่มคนที่ชอบชุดสาวใช้ สาวเสิร์ฟ ชุดเมด อะไรก็ได้ที่มีผ้ากันเปื้อน หรืออาจจะมีแต่ผ้ากันเปื้อนก็ได้ ชุดส่วนใหญ่เอามาจากยุคอังกฤษสมัยศตวรรษที่ 18-19
- Miko (มิโกะ) -กลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ชอบสตรีในชุดขาวแดง (มิโกะ เป็น ผู้รับใช้พระเจ้าเป็นผู้หญิงที่ทำหน้าที่ดูแลศาลเจ้า)
บางครั้งมีการเพี้ยนออกไปในรูปแบบของชุดนักบวชในศาสนาอื่นก้อมีอยู่บ้างประปราย เช่น ชีเปลือย
- Chounyou(โชเนียว) - พวกนิยมผู้หญิงโนตมๆ โนตมจริงๆ นะ ไม่เห็นกับตาไม่รู้หรอก - -" มักอยู่ควบคู่กับ H บางทีอาจจะเห็นว่ามีการวาด fanart แนว C ตามเว็บ H (ซึ่งมันแน่นอนอยู่แล้ว) เตือนไว้ก่อนเลยว่าโนมันไม่ตมธรรมดา
- Megane (เมะกะเนะ) - สมาคมที่มีอยู่เพิ่มไม่ให้ แว่นตา หายไปจากโลกนี้ (พวกชอบหนุ่มสาวที่ใส่แว่น) และรังเกียจคอนแทคท์เลนส์ยิ่งนัก มีสโลแกนประจำกลุ่มเป็นที่เลื่องลือว่า" สาวแว่น สุดยอดดดดดดดดดด!!! "
- Megami (เมก้ามิ หรือ เมงามิ ) - พวกชอบเทพธิดา นางฟ้า ชาวสวรรค์ อะไรเทือกนี้
- Kemono (เคโมโนะ หรือ เคโมะ) - คนที่ชอบ พวกครึ่งคนครึ่งสัตว์ หรือ สัตว์ที่มีลักษณะคล้ายคนมากกว่าสัตว์ ยืนได้ พูดได้ เป็นต้น
- Mimi (มิมิ) - พวกคลั่งหู จะรวมๆใน พวกหูแมว หมา กา ไก่ (เฮ้ยๆ)
- Nekomimi (เนโกะมิมิ) กลุ่มคนที่คลั่งไคล้ หูแมว และหางแมว
- Inumimi (อินุมิมิ) คล้ายๆกับ Nekomimi แต่จะเป็น หูหมาหางหมาแทน - ใครชอบอินุยาฉะรู้ตัวซะว่า....
- Usagimimi (อุซาหงิมิมิ) ก็เหมือนกับข้างบนอีกแหละ แต่เป็นกระต่าย
- Animal (แอนนิมอล) -ตรงตัวเลย สายสัตว์เห็นๆ มีมากจนแทบล้นในเรื่อง วันพีซ
- Change (เชนจ์) - พวกที่ชอบในด้านการแปลงเพศ สลับเพศ (แต่อาจจะหมายถึงพวกชอบแปลงร่างก็ได้) - เช่น รันม่า1/2 อุลตร้าแมน
เกร็ดเกี่ยวกับโอตาคุ
ร้านโอตาคุเมืองนอก (แอดเลด เซาท์ออสซี่)
เมื่อไอ้ขี้เมา เผชิญหน้ากับโอตาคุญี่ปุ่น
นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดในปี พ.ศ.2550 ซึ่งในตอนนั้นไอ้ขี้เมา ยังไร้เดียงสา ไม่รู้ว่าโอตาคุคืออะไร วันนั้นเขาเดินหาห้องน้ำในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐบ้านนอกคอกนาของออสเตรเลียแล้วบังเอิญไปเจอโอตาคุนายหนึ่งแต่งตัวเป็นอุจิวะ ซาซึเกะ ทั้งๆที่ตัวแม่งก็ดำ (แต่ยังขาวกว่า Mr.D) เลยเข้าไปถาม
เพื่อไม่ให้ทั่นงง เราจะบริการแปลให้เลย
ไอ้ขี้เมา :"เฮ้ ซาซึเกะ นายรู้ป่ะห้องน้ำไปทางไหน?"ซาซึเกะ :" โทะ-เหละ?" (คำว่า Toilet แต่สำเนียงญี่หุ่น)แม่งย้อนถามผมว่าถามหาห้องน้ำใช่ไหม แล้วทำหน้างงๆ แต่สำเนียงแบบนี้ ญี่หุ่นชัวร์ ผมนึกในใจไอ้ขี้เมา :"ใช่"ซาซึเกะ :" ทางนู้น"แม่งตอบผมแบบส่งๆ แต่ด้วยความกวนตีนของผมๆเลยกวนมันไปว่าไอ้ขี้เมา :"ซาซึเกะ นายคิดยังไงกะซากูระอ่ะ"ซาซึเกะ " ..."ไอ้ขี้เมา :"แล้วนายคิดไงติดตามโอโรจิมารุอ่ะ"ซาซึเกะ " ..."แม่งยังทำหน้าเงียบ ผมเลยควักบุหรี่ขึ้นมาไอ้ขี้เมา :"นายช่วยใช้ นินจิตสึ(คาถานินจา)ของนายจุดบุหรี่ให้เราหน่อยดิ เราลืมเอาไฟแช๊กมา"คราวนี้แม่งไม่ตอบ เดินหนีไปเลยไอ้ขี้เมา :"เฮ้! ซาซึเกะ ไปไหนวะ เฮ้ย! เฮ้!"
ซึ่งตอนนั้นผมงงมากเลยว่าทำไม แต่เพิ่งมารู้ทีหลังว่า ที่แท้พวกโอตาคุไม่ชอบเข้าสังคมนี่เอง
ขอบคุณจริงจริงไร้สาระนุกรม ที่ทำให้ผมหูตาสว่าง หายสงสัย ที่แท้เขาก็เป็นแบบนี้กันนี่เอง ทีหลังผมจะได้ไปถามหาห้องน้ำจากคนอื่น จะได้ไม่เป็นการรบกวนความสันโดษของพวกเขา
รวมคลิปโอตาคุ
โอตาคุ เวอร์ชั่น 300
โอตาคุ เวอร์ชั่น เสื่อม (กลัวเสียสายตา อย่าเปิด)
- อ๊ากกก ตาของ ช้านนนน
- Ahhhh!! My Penis!!! by G-F
- มันเกี่ยวกับ Penis ตรงไหน?? S.A.T.O.
- by.ราชาคิมหันต์
- เสื่อมดีเนอะ เล่นซะ ซากุระไม่เหลือซากเลย by cane491
- จะอ้วกวะby hayate
พิธีกรรมทางศาสนาของเหล่าโอตาคุ
รู้ไหมใช่ว่า(มันคือTIP)
- ฟิกจีน ราคาถูก พอดูได้(บางทีดูแลน่าเกลียดก็ไม่อยากซื้อ) ไม่ทน ขายเกลื่อน
- ฟิกแท้(ญี่ปุ่น) สวย ทน แต่โคตรแพง และบางอย่างโคตร RARE!!!
- โอตาคุบางคนจะอยู่เป็นกลุ่ม เช่นเดียวกับ ติ่งหู นะ
- อยากไปงานคอสต้องไปตรงเวลาเปิดอย่าไปเรตแม้แต่วินาทีเดียว
- งาน Capsule Event จัดทุกต้นเดือน พลาดไม่เป็นไร(เดือนต่อไปก็ยังมี)
- งาน TGS TGA Big Festival(ความจริงเป็นงานเกมแหละแต่จะพ่วงงานคอสเพลยมาด้วย)Oishi Cosplay Cosplay Worldและบางงาน อย่าพลาดเด็ดขาด ถ้าพลาดแล้วจะเสียใจ งานเหล่านี้แนะนำให้มาตอนเสาร์-อาทิตย์(ถ้าจัดหลายวัน)
- โอตาคุใจดีจะตาย(เนอะ)อารมณ์ดีและฮาด้วย(หรือเปล่า)
- คนที่แต่งคอสส่วนใหญ่มางานไม่ได้ทุกครั้งหรอก(ถ้าฐานะไม่ดีคริง) เพราะคำตอบเดียวคือ ไม่มีตัง(ตังหมดไปกับชุดคอสเพลยแล้วครับ)
- เป็นโอตาคุควรอ่านและเขียนภาษาญี่ปุ่นออกนะจ๊ะ
- เวลาไปงานโปรดระวังบังตากล้องที่ถ่ายคอสทุกมิลลิเมตร
- คนไปงานคอสส่วนใหญ่จะมีกระเป๋าสะพาย หรือ เป้ แบก(ไม่รู้เป็นไร)
- พวกที่แต่งตัวแนวทเห่อ ตำกวด คอมมานโด่ ถือปืนBB ก็เรียกว่า คอสเพลยเหมือนกัน
- โอตาคุมีจำนวนมากเหมือนกันนะ
- แปลซัพไม่ใช่ง่ายนะเธอว์
- เว็บดราม่าโอตาคุเยอะนะจะบอกให้
- คอสบางทีแต่เพื่อความฮา เพื่อความตลกขบขัน กรุณาทำใจ
- คอสบางคนแต่งไม่เหมือนกรุณาอย่าว่า เพราะเขาทำด้วย ใจ
- ดูโดจิน กรุณาทำใจ
- สินค้าทำบางอย่างไม่เหมือนก็อย่าบ่น เพราะเขาใส่ใจทำด้วยใจรัก
- กฎหมายของญี่ปุ่นที่บอกว่าแบนโลลิค่อน รู้สึกว่า ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ หวะ
- โอตาคุส่วนใหญ่จน เพราะหมดไปกับ คอสเพลย ฟิก และ เนนดรอย
- โอตาคุ เป็นคนธรรมดา ไม่ใช่โจร ฆาตรกร มาเฟีย ผี ปีศาจ เอเลี่ยน โปรดเป็นกันเอง
- ของหื่นไม่แปลกเพราะต้องมี(สำหรับโอตาคุผู้ชายทุกคน)555+
- โอตาคุต้องติดเกมควบกับการ์ตูน(งงหวะอย่างใดอย่างหนึงไม่ได้)(แต่ถ้าเกมมากกว่าการ์ตูนมากๆ จะเป็นGamerแทน อย่าสับสน)
- หัดทำงานทำการซะบ้างพวกไร้ประโยชน์
(มีอะไรดี บอกต่อหรือแก้ไขได้นะ จุ๊ฟ)
- โอตาคุ ทำให้เศษรฐกิจ ในญี่ปุ่นดีน่ะ โอตาคุบางคนรวยมากๆด้วยละ555555+
รายนามส่วนหนึ่งของกลุ่มบุคคลที่อาจเข้าข่ายว่าเป็น โอตาคุ
....ทุกๆคนที่อ่านบทความนี้ไง!รวมผู้เขียนบทความไปด้วยก็จะดี ข้อมูลแน่นดีว่ะ
- ไร้ชีวประวัติ:เหลือบหริ่งเรไรแห่งวงการการ์ตูนไทย
- โรงพยาบาล H
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโอตาคุ
ฮิคิโคโมริ
- ฮิคิโมริ คือชื่อเรียกของคนที่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านและไม่ยอมที่จะออกไปไหน โดยสาเหตุที่เกิดมีได้หลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะเกิดจากการได้รับแรงกดดันทางสังคม หรือมีความหวาดกลัวต่อสังคม จนทำให้ไม่กล้าที่จะออกไปไหน ได้แต่หมกตัวอยู่แต่ภายในบ้านหรือห้องของตนเพียงเท่านั้น
- ฮิคิโมริไม่เกี่ยวข้องกับโอตาคุ หากแต่ฮิคิโมริบางคนจะมีอาการของโอตาคุเนื่องจากการที่ไม่สามารถทำสิ่งอื่นได้จนต้องหาสิ่งบันเทิงใจมาเสพซึ่งทำให้สามารถกลายเป็นโอตาคุได้ในที่สุด
- ตัวอย่างความเข้าใจผิดที่เกี่ยวกับคนที่เป็นฮิคิโมริ
สิ่งมีชีวิตที่ว่ากันว่าอันตรายยิ่งกว่าโอตาคุ แต่ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด ได้ยินมาว่าคือโอตาคุที่ได้รับแรงกดดันทางสังคมมากๆ จนมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว รุนแรง เก็บตัว ไม่ชอบออกไปไหน ไม่สุงสิงกะใคร ไม่ยอมฟังและรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นเลย พอทำอะไรผิดพลาดก็ยอมรับไม่ได้ว่าตัวเองผิด สังเกตง่ายๆคือติดบ้านซะยิ่งกว่าโอตาคุ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาจากโอตาคุเหมือนกัน ปัจจุบันยังหายากอยู่ มีชื่อเล่นว่าฮิคกี้
- บทความเกี่ยวกับ ฮิคิโคโมริ
คำวิพากษ์วิจารณ์
- เป็นโอตาคุน่ะ ไม่สนุกหรอก อยู่แต่ในโลกวัตถุ มาอ่านร่างรัฐธรรมนู้บหรือไม่ก็คัมภีร์พระไตรปิฎกดีกว่ามั้ย
- โอตาคุกับพวกบ้าการ์ตูนหรือแฟนพันธุ์แท้มันคนละเรื่องกัน เกรียนไทยกรุณาอย่าสับสน
- คำว่าโอตาคุที่พันทิปวินิจฉัยแล้ว ว่ามันเป็นคำด่าไม่ใช่คำชม ดังนั้นกรุณาอย่าเอามาเรียกตนเองด้วยความภูมิใจเลย
- ขึ้นกับบริบท หรือคำอื่น ๆ รอบ ๆ ด้วย เพราะยังมีบางคนที่ลึกๆแล้วยังแอบภูมิใจที่เป็น อตค. (เหมือนที่มีบางคนแอบกล่าวว่าตนภูมิใจที่เป็นกะเทย)
- ทุจศิล กินชะมัดได้กล่าวไว้ว่าพันทิปไม่ใช่พ่อ
- แค่อ่านการ์ตูน หรือดูอนิเมะ มันไม่ใช่โอตาคุ ลองอ่านข้างบนให้มันละเอียดอีกทีสิ
- นอกจากร้านตามห้างต่างๆ แล้วนะ โอตาคุยังมีที่ราชมังคลา กับทำเนียบรัฐบาลด้วย
- โอตาคุ หาใช่ส่วนเกินของสังคมไม่ หากรู้ว่าตัวเองเป็น และผู้คนรอบข้างก็มองว่าตัวเองเป็น ก็จงยอมรับซะ (อย่ามาซึนเดเระ!) ไม่ใช่พร่ำบอกอยู่ร่ำไปว่า
"ผมไม่ใช่โอตาคุ!!!"
- แต่คนที่เป็นแค่ mania ก็ไม่ใช่อวดดดีบอกว่า
"ผมเป็นโอตาคุ!!!" ทั้งๆที่ตัวเองก็ดีแค่การ์ตูนตามกระแส
- โนบิตะเป็นโอตากุต้องแต่งงานกับไจโกะนักเขียนการ์ตูน
- แต่อย่างน้อยก็ยังจัดว่าเมพกว่าบางคน ที่ไม่สามารถหาคนมาเป็นคู่แต่งงานได้เลย จวบจนวันตาย
- หนุ่มแว่น สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!
- จากที่อ่านมาส่วนบนพวกคุณดูโอตาคุผิดไปหลายอย่างโอตาคุไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้นซะหน่อย เป็นมนุษย์เหมือนกัน แล้วก็อีกอย่าง โอตาคุ ดีกว่า "เกรียน" ที่ด่าคนอื่น(เช่นด้านบนทั้งหลาย)เป็นไหน
- ถึงโอตาคุ จะไม่เป็นที่ยอมรับ แต่ไม่ใช่ให้ใครมาเรียกว่าเกรียน อย่ามาเหมารวมอย่างนั้น !! "โอตาคุ ก็เป็นคน มีสมอง เหมือนพวกเราทุกคน" หรือว่าไม่จริง โอตาคุ ไม่น่ารังเกลียดเสมอไปหรอก
- แต่เกือบ 100% ของโอตาคุมักทำตัวน่ารักเกียจ และพูดจาไม่รู้เรื่อง !!
- โอตาคุ ไม่เดือดร้อนใคร แต่ก้อน่ารำคาญมาก
- อะไรคือโอตาคุ?
- โอตาคุ ที่ดีๆก็มี ที่สะอาด ไม่น่ารังเกียจ โอตาคุบางคนยังฉลาดกว่าเกรียนบางคนด้วย โอตาคุ ไม่ได้ตัดสินที่ความสนุกซะหน่อย ความชอบต่างหาก!!!ละ อย่ามาห้ามน่ะ ความชอบห้ามได้ที่ไหนละ
- โอตาคุมีฮีโร่คือโอตาคุแมน
- โอตาคุอาจจะหมายถึงพวกคลั่งไคล้สิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ได้ เช่น โอตาคุจตุคามฯ เป็นต้น
- แต่ก็มีบางคนบอกว่าโอตาคุไม่ใช่พวก Mania ร้อก เพราะโอตาคุน่ะหนักกว่านั้นเยอะ~
- ญี่ปุ่นมีโอตาคุ ไทยก็มีเกรียนล่ะว้า
- โอตาคุ"ผิด"ตรงหนาย~?-*-
- โอตาคุไม่ได้เป็นแบบที่ข้างต้นว่าไว้เสมอหรอก ร.ร. เรามีโอตาคุอยู่ห้องกิฟต์ก็มี ไม่ได้หมายความว่าเป็นโอตาคุต้องอุบาทว์ สมองขี้เลื่อยซะหน่อยนิ
แล้วที่พวกเค้าค่อนข้างจะมีความกล้าบ้าบิ่นเกินคนมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดไม่ใช่หรือไง ที่เค้าจะมีความกล้าแสดงออกสูงกว่าคนทั่วไป
- บางครั้ง บางคน บางที่ - เหล่าโอตาคุ ก็เป็นเพราะสภาพแวดล้อม แล้วพอพวกเขาเป็นโอตาคุแล้วก็ยิ่งซ้ำเติมอีก มันก็น่าสงสารเช่นกัน
- ทำไมบรรดาโอตาคุที่เราเคยเห็นมันมีแต่พวกที่สมหวังในชีวิตทั้งนั้นเลยล่ะ เรียนเก่ง ความสามารถสูงในหลาย ๆ ด้าน แล้วยังมีมนุษยสัมพันธ์ดีอีกต่างหาก แถมก็ใช่ว่าหน้าตาจะน่าเกลียด ที่เราอยากจะบอกก็คือว่า เนี่ย...
O obnoxious สันดานแย่ ไม่น่าคบ
T tuacky ซกมก
A aggravate น่ารำคาญ
K klutz สมองกลวง
U ugly อุบาทว์
มันแรงไปมั้ย
เราแค่อยากรู้เฉย ๆ ว่าทำไมถึงมองโอตาคุในแง่ร้ายกันจัง เราว่ากลุ่มบุคคลที่กล่าวมานั่นก็เป็นแค่ส่วนน้อยไม่ใช่เหรอ อย่าเอาส่วนน้อยมาตัดสินส่วนรวมสิ เปิดความคิดกันมาลองคุยกันไม่ดีกว่าเหรอ บางทีอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิดก็ได้ โอตาคุอาจจะไม่ได้เลวร้ายอะไร ที่ทำตามอนิเมน่ะ ก็แค่พวกที่ไม่ค่อยได้ใช้วิจารณญาณเท่านั้น โอตาคุส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย อย่าเหมารวมสิ - มีคนสองจำพวก พวกพยายาม กับพวกธรรมชาติ คนที่ประเภททำตัวน่าเกลียด เขาอาจจะพยายามบอกคนทั้งโลกให้รับรู้ว่าข้าเป็นโอตาคุ ด้วยเหตผลบางอย่าง
- ไมพวกคุมาดิ้นแถวนี้เยอะจังว่ะ
- โอตาคุจริงๆมันก็คือคำด่า เหมือนที่เราไว้ใช้ด่าพวกเกรียนนั่นแหละ
คำโต้แย้งคำวิจารณ์
- Otakuสูงกว่าคนทั่วไป1ก้าว Otaku2upสูงกว่า2ก้าว ไอ้เกรียนมันต่ำกว่า10000000000000ก้าว
- โอตาคุยังดีกว่าเกรียน แต่ไอ้นี่ไร้สาระไปหน่อย จึงน่ารำคาญมากถ้าไม่ใช่พวกเดียวกัน
- โอตาคุผู้ชาย ยังดีกว่า ติ่งหู เยอะแยะ
- ที่โอตาคุไม่ชอบเข้าสังคม เพราะ สังคมส่วนใหญ่เเยกเกรียน กับโอตาคุไม่ออก จึงตัดปัญหาโดยการไม่ไปยุ่งกับคนอื่น
- โอตาคุ=เกรียน=คุณนั้นเเหละคือเกรียน !!
ทำไมต้องว่าโอตาคุ เราก็เป็นคนนึงที่ยอมรับว่าเป็นโอตาคุและเป็นผู้หญิงด้วย!! คนที่มาหาว่าโอตาคุเกรียนน่ะ คุณน่ะเกรียนกว่า!
- โอตาคุไม่ใช่เกรียน เพราะมันต่างกันมากๆ ลองสังเกตุดีๆค่ะ โอตาคุ เป็นการที่หลงใหลสิ่งๆที่ เช่น โอตาคุการ์ตูน โอตาคุเครื่องเสีง โอตาคุรถยนต์ กับเกรียนแล้ว เกรียนแทบไม่มีความรู้เรื่องนั้นๆเลย
- โอตาคุไก่ชนก็มีนะ
- เคยคิดบ้างไหมว่า ทำไมเขาถึงต้องแยกมาจากสังคม มันต้องมีเหตุผลจริงไหม คุณรู้ไหม ที่พวกเราไม่ชอบให้ใครมาว่าโอตาคุ เพราะเรารักมัน
ใครๆก็ไม่ชอบให้มาว่าของที่ตัวเองรัก คุณต้องใจเย็น แล้วเปิดรับทุกๆอย่าง แล้วรับในสิ่งที่ดีมา คุณลองคิดว่า คุณน่ะ มีความสุขที่ได้ด่าโอตาคุจริงๆหรอ มีความสุขกับการทำร้ายจิตใจคนได้หรอ ?
- โอตาคุยังดีกว่าเกรียนนะครับ เกรียนมันเกิดจาก ทำร้ายจิตใจคนอื่น อิจฉาในสิ่งที่เขามี ใช้อารมณ์มากเกินไป ทำลายในสิ่งที่ตนเกลียด
แต่โอตาคุ รักในสิ่งที่จะรัก ถึงแม้บางที่มันอาจจะดูทุเรศไปหน่อย คุณเกิดลองเปิดใจคนที่เป็น โอตาคุบ้างรึป่าว ไม่เคยก็เลิกเบียดเบียนกันเถอะนะครับ อย่ามองกันแค่นั่นนะครับ ถ้าคุณมีเพื่อนสนิท แต่เพื่อนของคุณเป็นโอตาคุ แล้วคุณไม่เป็นเพื่อนกับเขาอิกต่อไป เพราะเพียงว่าเขา รักใน โลก 2D เท่านั่นหรอครับ กลัวงั้นหรอครับ กลัวว่าคนอื่นจะดูถูก เหยียดหยาม ? อย่ากลัวเรยครับ ถ้าเป็นสิ่งที่คิดว่าดีแล้ว พวกที่เหยียดหยามคุณ ดูถูก คุณ น่ะ อย่าไปยุ่งเรยครับ นั่นนะ ที่เรียกว่า "เกรียน"
- ไมสาระจังคับ บาน
- นี่โอตาคุน่ะสุดยอดนะที่โรงเรียนเราน่ะ่เพื่อนเราที่เป็นโอตาคุน่ะ่เรียนเก่งมากเลยแล้วยังอยู่ห้องต้นๆตลอดด้วยล่ะ *O* (ถึงจะดูเก็บตัวไปหน่อยก็เถอะ-_-)
- โอตาคุหญิงก็มีนะคะ
แหล่งข้อมูลอื่น
- เพลงโอตาคุหัว
ควยเกรียน - ลัทธิมืด
- บิดาแห่งเกรียน
- โดจิน
- โมบิลสูทเกรียนดั้ม
- ทั่นโอยาชิรอธ
- ลัทธิ SOS
- สคูลเดน
- บีช
- ดอทแหก
- นี่-แหละ-สยาม-ออนไลน์
- เกมส์โป๊
- การ์ตูนโป๊
- หนังโป๊
- หนังสือโป๊
- รายการหลุมดำ ตอน โอตาคุ
- ชนชั้นของโอตาคุ
- ศาสนาโอตาคุ
- ปลิง
- โอตาคุฝรั่ง
- Otaku Kingdom
และสุดท้ายก็เลยรวมๆภาพมานิดหน่อย