วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555

รวมบทความว่าด้วย "โอตาคุ" (Otaku,ヲタク)

นั่งฮาอะ เลยเอามาฝากมิตรรักทุกท่าน ของดีต้องแบ่งปัน ลองไล่ตามอ่านไปแล้วหวังว่าคงสร้างรอยยิ้มได้ไม่น้อย มีแบบให้ดาวโหลดจากเว็บเด็กดีด้วย แล้วก็คัดบทความที่เกี่ยวข้องมารวมเป็นก้อนเดียวกัน บางแหล่งอาจจะหยาบโลนทำให้ระคายเคืองรับไม่ได้สำหรับบางคน แต่ว่าอยากให้เปิดกว้าง เด็กจะได้รู้ว่าในโลกนี้ไม่ได้มีแต่สิ่งดี ต้องหัดเรียนรู้สังคมจากด้านลบหรือหัดเรียนรู้ความชั่วร้ายไว้เพื่อเอาตัวรอด แต่ถ้าเอาตัวรอดไม่ได้ก็จะถูกความชั่วครอบงำ ข้าน้อยเชื่อเหลือเกิ๊นว่าเด็กสมัยเน๊ไม่โง่แบบป้าๆลุงๆวิตกกันขนาดนั้นหรอก อย่าจิตตกนักเลยเจ้าค่า~
ประเดิมด้วยบทความของ OS จุดสะกิตต่อมฮา ซึ่งทำให้ข้าน้อยต้องงดทำกิจกรรมส่วนตัวมานั่งเขียนบล็อคในรอบปีเลยทีเดียว จะว่าไปก็ชักสงสัยว่าคนเขียนจะเป็น...รึเปล่านะ???!!!  XD  แต่ก็ขอขอบคุณมากนะคะที่จุดประกาย you make my dayจริงจริ๊ง/GT

   เมื่อเข้าไปสนทนาในเว็บบอร์ดเกมออนไลน์, ดูคลิปวีดีโอบน Youtube, Mthai, Clip Mass หรือสังคม Social แบบ Facebook, Exteen, Google+ อาจจะเห็นการใช้ศัพท์เฉพาะในวงการการ์ตูนหลุดมาบ้าง ซึ่งพอสังคมกว้างขึ้น ก็เห็นศัพท์แปลกตาเหล่านี้มากยิ่งขึ้น บางทีก็ใช้กันโดยไม่ได้ตั้งใจแต่เพราะเคยชินจากในเว็บบอร์ดการ์ตูนก็มี ลองมาดูความหมายของคำเหล่านี้กัน
    มังงะ (Manga) : คำนิยาม “หนังสือการ์ตูน” ที่ผลิตจากญี่ปุ่น เนื่องจากความหมายตรงตัวและพิมพ์สั้นกว่า ทำให้มีบางคนใช้แทนคำว่าหนังสือการ์ตูน
    คอมิค (Comic) : หนังสือการ์ตูนในฝั่งตะวันตกและอเมริกา
    อนิเมะ (Anime) : ความหมายเหมือน “แอนิเมชัน” เมื่อก่อนเป็นคำที่ใช้เฉพาะในญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันใช้กันแพร่หลาย
    โดจิน (Doujin) : การ์ตูนทำมือและขายให้ผู้อ่านโดยไม่ผ่านสำนักพิมพ์ อาจเขียนโดยใช้ตัวละครที่สร้างเองหรือจากการ์ตูนเรื่องอื่น นักเขียนการ์ตูนชื่อดังหลายๆ คนก็เคยเป็นกลุ่มที่วาดโดจินมาก่อน ก่อนจะได้งานจากสำนักพิมพ์และกลายเป็นที่รู้จักในภายหลัง
    เนื่องจากไม่จำกัดแนว ในยุคหลังๆ จึงเห็นแบบการ์ตูนติดเรตค่อนข้างเยอะเพราะขายง่ายกว่าแนวอื่น บางครั้งกล่าวถึงแนวโดจินกันลอยๆ อาจเป็นประเภทนั้นก็ได้ แต่โดจินประเภทไม่ติดเรตและเนื้อหาค่อนข้างดีก็เยอะนะ
Comiket งานขายโดจินที่ใหญ่ที่สุด
 LC (License) : ส่วนใหญ่การ์ตูนที่วางขายหรือฉายในญี่ปุ่นจะยังไม่มีลิขสิทธิ์ แต่เมื่อมีบริษัทในต่างประเทศซื้อลิขสิทธิ์ จะมีกฏหมายคุ้มครองการเผยแพร่ในประเทศนั้น ทำให้กลุ่ม Fansub (กลุ่มผู้แปล Subtitle ให้กับอนิเมะหรือรายการทีวีต่างๆ ) กับหนังสือการ์ตูนไพเรต (หนังสือการ์ตูนที่มีสิทธิ์ในการจำหน่ายในไทย) จะต้องหยุดการเผยแพร่
    ถ้าคนมีอายุหน่อย น่าจะเกิดทันยุคหนังสือ The Talent พอมีหนังสือการ์ตูนลิขสิทธิ์ในไทยแบบ Boom และ C-Kids รวมถึงหนังสือการ์ตูนรวมเล่มแบบลิขสิทธิ์ ทำให้เรื่องที่ไม่มีลิขสิทธิ์ก็ไม่สามารถวางขายต่อได้
    ซีซัน (Season) : ช่วงเวลาในการฉายอนิเมะจากญี่ปุ่นตามสล็อตเวลาของสถานีโทรทัศน์ แบ่งเป็น 4 ช่วงตามฤดูกาลในญี่ปุ่น โดย 1 ซีซันยาวประมาณ 11 – 13 ตอน แบ่งออกเป็น 4 ช่วง คือ
    - ฤดูหนาว (Winter) ส่วนใหญ่เริ่มฉายเดือน 1
    - ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) ส่วนใหญ่เริ่มฉายเดือน 4
    - ฤดูร้อน (Summer) ส่วนใหญ่เริ่มฉายเดือน 7
    - ฤดูใบไม้ผลิ (Fall) ส่วนใหญ่เริ่มฉายเดือน 10
    * ช่วงที่ฉายอนิเมะส่วนใหญ่ จะเริ่มกลางฤดูกาลจริง ไม่ได้เริ่มต้นฤดู  อย่าง ฤดูหนาวในญี่ปุ่น จะเริ่มเดือน 12

    SS : ถ้าต่อท้ายชื่อการ์ตูน ส่วนใหญ่จะหมายถึง ภาคต่อของการ์ตูน เช่น Gundam 00 SS1 ก็หมายถึงซีซันแรก ยกเว้นบางเรื่องอาจเอา SS ห้อยท้ายไว้แต่ไม่เกี่ยวข้องกับภาคเลย แบบเรื่อง Amagami SS หรือ Inu X Boku SS

    BD (Blu-Ray Disc) : แผ่นบลูเรย์ ทั้งแผ่นและเครื่องเล่นบลูเรย์ราคาถูกลงตามเวลา จนราคาไม่ค่อยแตกต่างกันมาก อีกทั้งเครื่องเล่นบลูเรย์สนับสนุนความละเอียดระดับ HD ที่ 1920 X 1080 ทำให้ได้ภาพที่คมชัดกว่าแผ่น DVD มาก  แต่การ์ตูนบางเรื่องที่ผลิตแต่แผ่น DVD ยังคงมีให้เห็นอยู่บ้าง

    Film, Movie : อนิเมะที่ฉายในโรงภาพยนตร์ อาจเป็นตอนพิเศษ, ตอนจบต่อเนื่องจากภาค TV หรืออนิเมะที่ทำมาฉายบนจอเงินโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่จะทุนสร้างสูงทำให้ภาพละเอียดกว่าภาค TV ถึงหลายเรื่องจะจำกัดโรงฉายและส่วนใหญ่รายได้น้อยกว่าภาพยนตร์ที่คนแสดง แต่หลายเรื่องทำรายได้ระดับร้อยล้านเยนถึงพันล้านเยนขึ้นไป หลังฉายประมาณครึ่งปีถึง 1 ปี จะมีการวางขาย DVD หรือ BD ตามมา
ฉายโรง ทุนสร้างสูง รายละเอียดก็สูงขึ้น
     OVA (Original Video Animation) : การ์ตูนบางเรื่องที่ไม่ฉายทางโทรทัศน์ ส่วนใหญ่วางขายตามสะดวก ไม่ต้องขายต่อเนื่อง อาจขายแค่ 1 – 2 ตอนในแต่ละปีจนจบ ทุนสร้างสูงกว่าภาค TV แต่ส่วนใหญ่จะน้อยกว่าภาคจอเงิน แต่เดิมจะใช้คำว่า OAV (Original Animated Video) ซึ่งมีความหมายคล้ายกัน แต่เนื่องจากในญี่ปุ่นมีกรณีสับสนกับคำว่า AV (Adult Video) เลยเลี่ยงไปใช้ OVA แทนมากกว่า

    OAD (Original Anime DVD) : อนิเมะตอนพิเศษที่ขายพร้อมมังงะเล่มปัจจุบัน (ราคาแพงกว่าปกติโดยบวกค่า DVD ปกติไปด้วย) ส่วนใหญ่เป็นตอนพิเศษที่ไม่มีฉายและวางขาย ทำเพื่อกลุ่มแฟนๆ ของเรื่องนั้นโดยเฉพาะ ปกติจะไม่มีขายแยกต่างหาก (เพราะถ้าขายแยกก็จะกลายเป็น OVA ปกตินี่เอง)

    ONA (Original Net Animation) : การ์ตูนที่ฉายผ่านระบบเน็ตเวิร์คเท่านั้น ไม่มีฉายทางทีวี บางเรื่องที่ฉายไม่จบทางทีวี หรือต้องการทำตอนพิเศษ จะเลือกฉายผ่านอินเตอร์เน็ตแทน

    Live Action : ภาคที่ใช้คนแสดงแทนตัวการ์ตูน และหมายถึงภาคจอเงิน (ถ้าฉายทาง TV ส่วนใหญ่เรียก TV Series หรือ TV Drama) บางครั้งต่างประเทศอย่างเกาหลีใต้, ฮ่องกง หรือไต้หวัน ก็นำไปทำเป็นภาพยนตร์แทนก็มี
Gantz ภาค Live Action

    Drama CD : ส่วนใหญ่เป็นตอนพิเศษจากการ์ตูนที่เพิ่มเนื้อหาที่เข้ามา ส่วนใหญ่จะใช้เสียงประกอบอย่างเดียวโดยไม่มีภาพ คล้ายๆ ละครวิทยุในไทย, ถ้ามีภาพนิ่งประกอบเสียงพากย์ อาจจะเรียก Picture Drama หรืออื่นๆ

    Light Novel : นิยายสำหรับวัยรุ่น ส่วนใหญ่เนื้อหาเหมือนอ่านการ์ตูน เพียงแต่เน้นตัวหนังสือทั้งเล่ม มีภาพประกอบน้อยมาก (เฉลี่ยประมาณ 5 – 10 หน้าจากความหนาประมาณ 200 หน้า) ส่วนใหญ่นิยมใช้สำนวนที่เข้าใจไม่ยาก เพื่อให้เด็กจนถึงวัยรุ่นญี่ปุ่นอ่านเข้าใจ ปัจจุบันมีเรื่องประเภท Light Novel วางจำหน่ายในไทยมากขึ้น
    ถ้าสงสัยต่อว่า แล้วต่างจาก Novel ตรงไหน ? คิดว่าเป็น “นิยายประเภทหนึ่ง” ที่เจาะเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลักก็แล้วกัน อธิบายแบบทางคณิตศาสตร์ก็เหมือนเป็น Subset ของนิยายนั่นแหละ
    รายละเอียดเพิ่มเติม : รู้หรือไม่ Light Novel และ Visual Novel คืออะไร ?

    AMV (Anime Music Video) : เห็นกันในเว็บดูวีดีโอกันบ้าง เป็นการนำเพลงประกอบไม่ว่าจะเพลงการ์ตูนหรือเพลงต่างชาติ ไปตัดต่อให้เข้าจังหวะกับคลิปอนิเมะ หรือภาพจากมังงะ 
    ยังมีอีกคำที่เห็นบ่อยในคลิป คือ MAD นิยมใช้เพื่อบอกว่า เป็นคลิปมาจากกลุ่มคอมมิวนิตี้ผู้ที่ชอบการตัดต่อในญี่ปุ่น เช่น จากใน Nico Nico Douga เป็นต้น

    ซึนเดเระ (Tsundere) : เป็นคำที่พบเห็นกันบ่อยขึ้น แต่เดิมใช้กับตัวการ์ตูนที่แข็งกระด้างต่อตัวเอกแต่แรก (Tsun Tsun = เย็นชา) แล้วกลายมาเป็นหลงรักตัวเอกในภายหลัง (Dere Dere = อ่อนหวาน) เป็นรูปแบบตัวละครที่ได้รับความนิยมมากจนถึงปัจจุบัน แต่ยุคหลังความหมายกว้างขึ้น เหลือเพียงตัวละครที่ปากไม่ตรงกับใจ ในไทยเห็นกันบ่อยขึ้น ในเว็บไซต์หรือเว็บบอร์ดที่มีเกิดดราม่าขึ้น ซึ่งหมายถึง “คนที่ตอบอย่าง แต่(รู้นะว่า)ในใจคิดอีกอย่าง”

    โมเอะ (Moe) : คำเฉพาะในญี่ปุ่น ความหมายเดิม คือ ตัวละครที่เห็นแล้วถูกใจเป็นพิเศษ (ในรายการญี่ปุ่น อาจลากเสียงยาวเป็น โมเอ้) ปัจจุบันค่อนข้างกว้างขึ้น อาจรวมไปถึงคนจริง และความหมายเปลี่ยนไปทางน่ารักมากกว่าความหมายเดิม

    ส่วนศัพท์ขั้นที่ลึกๆ เฉพาะทางหน่อย ดูได้จากใน Link ด้านล่าง 
    ภาษา OTAKU ( โอตาคุ ) วันละคำ # 1
    ภาษา OTAKU ( โอตาคุ ) วันละคำ # 2
    ภาษา OTAKU ( โอตาคุ ) วันละคำ # 3
   ตัวอย่าง (ขอบคุณภาพประกอบจากเว็บ ani-mini.com)


คำว่าโอตาคุ (オタク ) ในภาษาญี่ปุ่น ถ้าแปลแบบตรงตัวจะ ได้ความหมายว่า "บ้าน" หรือ "สุขภาพ" ขึ้นอยู่กับกลุ่มคนที่กำลังพูดด้วยหรือสถานที่ ดังนั้นคำว่าโอตาคุ จะมีความหมายสแตนดาร์ดของมัน และความหมายที่เกิดจากการตีความของแต่ละคนแต่ละกลุ่มด้วย ซึ่งก็สามารถแปลได้ว่า โอตาคุ คือ กลุ่มบุคคลผู้ซึ่งลุ่มหลงในโลกแห่งการ์ตูน และ อนิเมชั่น 

กลุ่มคนเหล่านี้จะมีความสามารถในการเก็บเกี่ยวการ์ตูนหรืออนิเมชั่นในระดับ rare จากสถานที่ต่างๆได้อย่างไม่ยาก จะเห็นได้ว่าบางคนมีของสะสมเป็นระดับ Ultimate Rare เยอะมากๆ และด้วยความหมกมุ่นอย่างหนักในโลกของอนิเมชั่น ทำให้คนเหล่านี้ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่าง"เด็ก"ผู้หญิงในชีวิตจริงกับในอนิเมชั่นได้ ทำให้การรับรู้ด้านความสวยงามเกี่ยวกับผู้หญิงจริงๆสูญเสียไป 

พวกนี้จะคิดว่า"เด็ก"ผู้หญิงที่น่ารักคือผู้ที่มี หูแมว หูหมา หูกระต่าย ชุดเมด เท่านั้น สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้กลายมาเป็นพวก โอตาคุ ส่วนมากจะมาจาก การที่ไม่สามารถสมหวังในความรัก ( อกหัก , สาวไม่แล ) ดังนั้น จึงต้องมาปลอบประโลมตัวเองด้วยโลกสมมุติที่ตัวเองสร้างขึ้นจากความใฝ ่ฝันและหลงใหลในตัวละครของการ์ตูนและอนิเมชั่น เรียกได้ว่า พวกนี้คือพวกที่บ้าการ์ตูนนั่นเอง 


สถานที่ที่จะพบเห็นชาวโอตาคุ 

  1. สะพานเหล็ก แถวภิรมย์พลาซ่า โดยเฉพาะแถวร้าน High Media จะพบเห็นได้เป็นฝูง 
  2. มาบุญครอง ชั้น 6 บริเวณทางขึ้นไปโรงหนัง SFX ด้านฝั่งที่มี เกมส์ PS2 และเกมส์ตู้ ชั้น 7 บริเวณโดยรอบโรงหนัง SFX 
  3. เซ็นทรัลลาดพร้าว จะพบเห็นได้ตามชั้นใต้ดินบริเวณที่ขาย หนังสือญี่ปุ่นมือสอง 
  4. สยามเซ็นเตอร์ ร้าน Fantasia ซึ่งเป็นร้านที่ขายของแพง แต่ก็ จะพบเห็นเหล่าโอตาคุได้ไม่ยาก 
  5. Worldtrade Center ร้าน Kinokuniya แหล่งหนังสือนำเข้า ชั้นดี 
  6. อัมรินทร์โซโก้ ร้านโตเกียวโด ร้านแบบเดียวกับ Kinokuniya เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการสั่งหนังสือของเหล่าโอตาคุ 
  7. เซ็นทรัลสีลม ช่วงประมาณชั้น 3 ชั้น 4 ไม่แน่ใจว่าชื่อร้าน อะไร 
  8. เดอะมอลล์รามคำแหง3 ชั้นบนสุดเท่าที่คนทั่วไปขึ้นไปได้ ในบริเวณ Food Center ช่วงด้านหลังห้างฝั่งขวามือ ( ในกรณี มองจากด้านหน้าไปข้างหลัง ) ร้าน J. Shop ฯลฯ 


ลักษณะที่ชี้ชัดว่า นี่แหละชาวโอตาคุ 

  1. จะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือการ์ตูนโดยไม่สนใจว่าจะเป็น เวลาไหน แม้แต่เวลาเดิน สังเกตได้ว่าพวกนี้เดินอ่านหนังสือ ไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจว่าจะชนใครหรือเปล่า 
  2. เมื่อชวนคุย ถ้าคุยเรื่องการเมือง เค้าจะเอากันดั้มมาอ้างอิง ถ้าคุยเรื่องแฟชั่น ก็จะพูดถึงชุดครอสเพลย์และชุดเมด ถ้าชี้เด็กผู้หญิงน่ารักให้ดู ก็จะพล่ามแต่เรื่อง L(Lolicon) และ Y(Yaoi, Yuri) แต่ถ้าพูดเรื่องเคนชิโร่ พวกนี้ตะโกนว่า "จ๊าก K"แล้วเดินหนีคุณไป 
  3. ถ้าเกิดเป็นคนรู้จักบังเอิญเจอพวกนี้ แล้วตะโกนเรียกเค้า เค้าจะไม่ตอบ ไม่สนใจ เพราะกำลังท่องชื่อตัวละครอยู่ 
  4. ถ้าเกิดบังเอิญได้ยินชื่อญี่ปุ่นจากคนที่หน้าตาค่อนไปทางประเทศเพื่อนบ้านให้รู้ได้เลยว่านั่นแหละ ใช่ 
  5. 50% ในเครื่องคอมพวกนี้จะมีแต่เกมส์และการ์ตูนอนิเมชั่น นอกนั้นเป็น Ms office 
  6. คติประจำใจพวกนี้คือ " ตัวตายไม่ว่า ขอข้าดูอนิเมเถอะ " 


เครดิด เว็บชีซ่า


ไฟล์:Otakustereo.jpg
โอะตะกุ (ญี่ปุ่นおたく otaku ?) เป็นคำภาษาญี่ปุ่น เป็นคำเรียกบุคคลอีกประเภท (โดยมากจะหมายความถึงชายหนุ่มเป็นหลัก) ที่มีความสนใจในสิ่งที่ตนชอบ (มักหมายความถึงอะนิเมะมังงะ หรือเกม) อย่างเกินปกติ และมีความสามารถในการเข้าสังคมไม่สูง เดิมทีนั้น โอะตะกุ มีความหมายว่า "บ้านของคุณ" ต่อมาก็ถูกนำมาเรียกใช้กับแฟนคลับอะนิเมะ มังงะ


โอตาคุ Otaku,ヲタク  

ชื่อวิทยาศาสตร์ Lolitasis Otakuhuador 
ตั้งชื่อโดย Bob Overlord, ค.ศ. 1970
สถานะ อนุรักษ์
สถานะ : สูญพันธุ์จากธรรมชาติ


คำว่าโอตาคุ (オタク) ในภาษาญี่ปุ่น มาจากคำว่า Taku ซึ่งแปลว่าบ้าน ซึ่งเป็นคำสุภาพ หลังๆเริ่มเพี้ยนความหมายมาเป็นเช่นเดียวกับคำว่า Mania ที่แปลว่าผู้ที่คลั่งไคล้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ แต่ส่วนใหญ่จะมักใช้กับพวกที่บ้าการ์ตูนซะมากกว่า เป็นความหมายที่ค่อนข้างไม่ดีภาพพจน์ของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เมื่อให้ Image จะได้ประมาณว่า เพศชาย ตัวอ้วน ๆ สิวเขรอะ ๆ อาจใส่แว่น ผมเผ้ารุงรังไม่สระผม กลิ่นเหงื่อโชย เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ แบกเป้ จริงๆแล้วโอตาคุไม่จำเป็นต้องมีลักษณะที่กล่าวไว้ก็ได้ หน้าตาดีก็มี และก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชาย เพียงแต่ไอ้ส่วนของโอตาคุผู้ชายจะเยอะกว่ามากนั่นเอง แต่จะมีผู้มาล่าพวกโอตาคุคือสังคังแมน

ซึ่งก็สามารถแปลได้ว่า โอตาคุ คือ กลุ่มบุคคลผู้ซึ่งลุ่มหลงในโลกแห่งการ์ตูน และ อนิเมชั่น กลุ่มคนเหล่านี้จะมีความสามารถในการเก็บเกี่ยวการ์ตูนหรืออนิเมชั่นในระดับ rare จากสถานที่ต่างๆได้อย่างไม่ยาก และด้วยความหมกมุ่นอย่างหนักในโลกของอนิเมชั่น ทำให้คนเหล่านี้ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่าง "เด็กผู้หญิง" ในชีวิตจริงกับในอนิเมชั่นได้ ทำให้การรับรู้ด้านความสวยงามเกี่ยวกับผู้หญิงจริงๆสูญเสียไป พวกนี้จะคิดว่า "เด็กผู้หญิง" ที่น่ารักคือผู้ที่มี หูแมว หูหมา หูกระต่าย ชุดเมด เท่านั้น

พวกนี้คือ Otaku2p ยกระดับ ชาตินี้มันจะไม่สนผู้หญิงจริงๆ แล้ว (แต่จริง ๆ คือผู้หญิงไม่สน) โดยมันจะเฝ้าบูชาสาวน้อยจาก Anime อย่างถวายหัว

2p ย่อมาจาก Too Parry หมายถึง หลีกหนีแล้วซึ่งความจริงทุกประการ โอตาคุเหล่านี้จะมีอาการนับถืออนิเมขึ้นสมอง หากมีใครมากล่าวว่าร้ายแก่อนิเมเรื่องโปรดจะเกิดอาการโกรธลุกเป็นไฟจนแทบจะกินเลือดกินเนื้อ โอตาคุเหล่านี้จะคุยกับคนธรรมดาไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะเขาจะพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ไม่อาจแกะข้อความออกมาได้

สมองส่วนใหญ่ของโอตาคุเหล่านี้ จะใช้จดจำแต่ข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างเต็มแน่นเอี๊ยด ซึ่งอาจไม่มีเรื่องที่มีสาระอยู่เลย


ในทางด้านบวกนั้น โอตาคุ อาจหมายถึงแฟนพันธุ์แท้ ซึ่งมีความรู้ความสามารถ สามารถจดจำในสิ่งที่ตนเองสนใจเป็นพิเศษ

สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้กลายมาเป็นพวก โอตาคุ ส่วนมากจะมาจาก การที่ไม่สามารถสมหวังในความรัก (อกหัก, สาวไม่แล) ดังนั้น จึงต้องมาปลอบประโลมตัวเองด้วยโลกสมมุติที่ตัวเองสร้างขึ้นจากความใฝ่ฝันและหลงใหลในตัวละครของการ์ตูนและอนิเมชั่น เรียกได้ว่า พวกนี้คือพวกที่บ้าการ์ตูนนั่นเอง

OTAKU หรือ โอคาคุ มีผู้ให้คำนิยามตามตัวอักษรดังต่อไปนี้

O obnoxious สันดานแย่ ไม่น่าคบ
T tacky ซกมก
A aggravate น่ารำคาญ
K klutz สมองกลวง
U ugly อุบาทว์
ดังนั้นโอตาคุแปลได้ว่า...



ประวัติศาสตร์ของโอตาคุ

ว่ากันว่าเอามาจากชื่อของชาวยุ่นปี่คนหนึ่ง ซึ่งคลั่งไคล้การ์ตูนสาวน้อยเข้าขั้นวิปริต ถึงกับขังเพื่อนนักเรียนหญิงในบ้านแล้วกระทำเลียนแบบอนิเมแนวฮาเร็ม จนเป็นคดีฉาวโฉ่ และชื่อโอตาคุจึงได้แพร่หลายไปทั่วโลก (ซึ่งคล้ายๆกับกรณีของคำว่าตุ๋ย ซึ่งเกิดจากนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเล่นว่าตุ๋ยเหมือนกัน)


ลักษณะจำเพาะของโอตาคุ

หากเป็นชายต้องเป็นแนวสาวน้อยตาโต ฮาเร็ม พระเอกมีแต่สาวๆมารุมล้อม ทั้งสาวแว่น สาวอกโต สาวเรียบร้อย น้องสาว คุณหนูผู้เย่อหยิ่ง ฯลฯ และถ้าโอตาคุชายผู้นั้นชอบเล่นซุปเปอร์โรบอทด้วยล่ะก็ จะเพิ่มพลังความเป็นโอตาคุอีก 30%

สำหรับโอตาคุหญิงนั้นก็จะเป็นแนว Boy-Love หรือแนว Y เรื่องรักๆใคร่ๆระหว่างผู้ชายด้วยกัน ใกล้ชิดสนิทสนม กอดกัน หอมแก้มกัน และอาจจะไต่ระดับไปถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักกันเลยทีเดียว

คนพวกนี้สามารถพบได้ตามงานการ์ตูนทั่วไปโดยเฉพาะงานที่มีคอสเพลย์ โอตาคุคือกลุ่มเป้าหมายหลักในการหารายได้ของวงการอนิเม หรือเรียกได้ว่าคือเส้นเลือดหล่อเลี้ยงวงการอนิเมแต่อีกด้านนึงก็ค่อย ๆ ทำลายวงการอนิเมไปทีละช้าๆเช่นกัน

วิธีสังเกตโอตาคุ

  • ไม่สนใจผู้หญิงอื่น นอกจากนางในฝันในอนิเมเท่านั้น
  • จะก้มหน้าอ่านหนังสือการ์ตูนลูกเดียว โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ถ้าเดินไปอ่านไปก็ไม่สนใจว่าจะเดินชนใคร
  • ถ้าชวนคุยเรื่องการเมือง ก็จะเอากันดั้มมาอ้าง ถ้าชวนคุยเรื่องแฟชั่น ก็จะพูดถึงชุดคอสเพลย์ ไม่ก็ชุดเมด บลาๆๆ
  • ถ้าชี้ให้ดูเด็กผู้หญิง ก็จะพล่ามแต่เรื่อง L (Lolicon) และ Y (Yaoi,Yuri)
  • แต่ถ้าพูดเรื่องเคนชิโร่ พวกนี้ตะโกนว่า "จ๊าก K"แล้วเดินหนีคุณไป
  • ถ้าเกิดเป็นคนรู้จักบังเอิญเจอพวกนี้ แล้วตะโกนเรียกเค้า เค้าจะไม่ตอบ ไม่สนใจ เพราะกำลังท่องชื่อตัวละครอยู่
  • ถ้าเกิดบังเอิญได้ยินชื่อญี่ปุ่นจากคนที่หน้าตาค่อนไปทางประเทศเพื่อนบ้านให้รู้ได้เลยว่านั่นแหละ ใช่
  • มากกว่า 50% ของพื้นที่ในคอมจะมีแต่เรื่องเกมส์และอนิเม นอกนั้นเป็นระบบปฏิบัติการ และ MS Office
  • สะพายเป้ใบเบ้อเริ่ม.. ไม่รู้ว่าข้างในใส่อะไรไว้นักหนา
  • แต่งตัวเชยๆ บ้างก็ใส่แว่น ชอบหลบหน้าผู้คน
  • คติประจำใจพวกนี้คือ " ตัวตายไม่ว่า ขอข้าดูอนิเมเถอะ "
  • ขาดกามา การ์ตูนไม่ได้ เหมือนขาดอาหาร...
  • คิดถึงเรื่องกามา การ์ตูนเกือบ 75% ของความคิดทั้งวัน
  • แต่งแฟนฟิค แต่งคอส เขียนโดจิน วาดแฟนอาร์ต <<<ทำอะไรซักอย่างใน 4 อย่างนี้ ทำแน่ๆสาบาน อาจทำครบทั้ง 4 ข้อเลยก็ได้
  • มีการ์ตูนที่ชอบที่สุดแบบยกย่องเทิดทูนคลั่งไคล้อยู่อย่างน้อยสามเรื่อง
  • มีตัวละครที่รักสุดๆในชีวิตเป็นหนึ่งเลย และมีประปรายอีกเยอะ=_=
  • สละเงินซื้อของการ์ตูนได้ไม่มีเสียดายเลย เงินกินข้าวของทั้งเดือนก็ยอม! (ไปตายเอาดาบหน้า การ์ตูนข้ามาก่อน!!)
  • ถ้านึกอยากได้อะไรขึ้นมาก็จะซื้อเลยโดยแทบไม่ต้องมีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น เหตุผลเดียว ก็ตูชอบอ่ะ ซื้อแล้วหนักกระบาลมรึงเรอะ..
  • รอบรู้เรื่องการ์ตูนไป (เกือบ) ทุกอย่าง ตามข่าวการ์ตูนไวมาก ใช้ภาษาโอตาคุ
  • เกลียดพวกสามมิติ (ดารา วงการบันเทิง น้ำเน่า) บางคนอาจเฉยๆหรือแค่รำคาญ แต่จะไม่สนใจพวกนี้เลย
  • ไม่มีแฟน (เรารักตัวการ์ตูนก็พอ!)
  • คลุกคลีกับการ์ตูน นั่งดู + อ่านได้ทั้งวัน ข้าวปลาลืมกินก็มี
  • เคยโหลดพวกสแกนคอมมิค แฟนซับ บิทอนิเม อย่างน้อยสิบครั้ง
  • เชิดชูอากิฮาบาร่าเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์
  • เกิดความรู้สึกโมเอะ (สุขใจสุดๆเหมือนไฟในตัวลุกโชน) เมื่อได้อยู่ในที่ๆมีการ์ตูน ได้ดูการ์ตูนหรืออ่านการ์ตูน
  • เมื่อดูการ์ตูนหรืออ่านการ์ตูนจะดูเหมือนหลุดไปอีกโลกนึง
  • ไปงาน Event การ์ตูนได้แทบทุกงานไม่มีขาด และหอบข้าวของที่ซื้อมาเป็นประจำ
  • จะพูดไม่หยุดเมื่อพูดถึงการ์ตูน
  • สามารถดูอนิเมได้ทั้ง season (เผลอๆ อาจ 2 seasons) ได้ในเวลาวันเดียว
  • ในห้องจะเต็มไปด้วยการ์ตูน ทั้งของสะสม หนังสือการ์ตูน อนิเม ฟิกเกอร์ การาจคิท โปสเตอร์ หนังโป๊ และอีกสารพัด
  • อ่าน&ดูการ์ตูนแบบจริงจังอย่างน้อย เกือบทุกเรื่องที่รู้จัก(โอตาคุจะรู้จักการ์ตูนโดยเฉลี่ยคนละ 100 เรื่อง ถึงจะคิดว่าไม่มากขนาดนั้นมั้ง?แต่ถ้าจับมานั่งลิสต์ซักพัก ดีไม่ดี อาจเกิน 100 ด้วยซ้ำไป)
  • ซื้อการ์ตูนหรือเกม(หรือแม้แต่ไลท์โนเวล)ที่ชอบคราวละ 3 ชุดขึ้นไป (ชุดแรกไว้ดู/เล่น ชุดที่สองไว้เก็บสะสม ที่เหลือไว้ให้คนอื่นๆยืมหรือแจกจ่ายเพื่อเพิ่มจำนวนสาวก!)
  • มีฐานะที่จน รวย ก็ได้(ไม่ค่อยมีปานกลาง)
  • ใจดี(555+)
  • กินโออิชิแทนน้ำเปล่า
  • มีเครื่อง PSP
    • ที่อาจจะเป็นข้อยกเว้นในกรณีนี้คือถ้าเขาเป็นนักเขียนเสียเองและเพิ่งได้เผยแพร่เป็นเรื่องแรก อันนี้ให้พึงเข้าใจว่าแค่เห่อ
      • อย่างไรก็ตาม ความไม่เท่าเทียมทางสังคมยังมีอยู่ สาวกของยอดมนุษย์เจเซิร์สแมนนั้นคลั่งไคล้เรื่องนี้ถึงขนาดตีพิมพ์ภาคนิยายไว้แจกฟรี รวมถึงได้รวมตัวกันจัดมีตติ้งทุกวันอาทิตย์ แต่ไม่มีใครเรียกสาวกของยอดมนุษย์เจเซิร์สแมนว่าโอตาคุเลย
        • ข้อควรสังเกต โอตาคุที่หมั่นแจกจ่ายหรือให้คนอื่นๆยืมสมบัติเป็นนิจนั้น จะไม่เป็นที่รังเกียจของคนรอบข้าง
สรุปก็ คือ อะไร นั่นเอง

สถานที่ที่จะพบเห็นชาวโอตาคุ

  • สะพานเหล็ก แถวภิรมย์พลาซ่า โดยเฉพาะแถวร้าน High Media จะพบเห็นได้เป็นฝูง(กำลังเล่นไพ่เมะอยู่ด้วย) [โดนปิดไปแล้ว ปัจจุบัน พบมากหน้าร้านพี่ดำ]
  • มาบุญครอง ชั้น 6 บริเวณทางขึ้นไปโรงหนัง SFX ด้านฝั่งที่มี เกมส์ PS2 และเกมตู้ ชั้น 7 บริเวณโดยรอบโรงหนัง SFX
  • เซ็นทรัลลาดพร้าว จะพบเห็นได้ตามชั้นใต้ดินบริเวณที่ขาย หนังสือญี่ปุ่นมือสอง
  • สยามเซ็นเตอร์ ร้าน Fantasia ซึ่งเป็นร้านที่ขายของแพง แต่ก็ จะพบเห็นเหล่าโอตาคุได้ไม่ยาก
  • Central World ร้าน Kinokuniya แหล่งหนังสือนำเข้า ชั้นดี
  • อัมรินทร์โซโก้ ร้านโตเกียวโด ร้านแบบเดียวกับ Kinokuniya เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการสั่งหนังสือของเหล่าโอตาคุ
  • เซ็นทรัลสีลม ช่วงประมาณชั้น 3 ชั้น 4 ไม่แน่ใจว่าชื่อร้านอะไร
  • เดอะมอลล์รามคำแหง3 ชั้นบนสุดเท่าที่คนทั่วไปขึ้นไปได้ ในบริเวณ Food Center ช่วงด้านหลังห้างฝั่งขวามือ ( ในกรณีมองจากด้านหน้าไปข้างหลัง ) ร้าน J. Shop ฯลฯ
  • ร้าน Akiba Kiss ที่เซ็นเตอร์พ้อย เป็นแหล่งรวมโอตาคุและและแฟนพันธุ์แท้เอนิเมะอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย อยู่ที่ Central World
  • ร้าน Yumeya ข้างๆ Akiba Kiss
  • ร้านขายหนังสือโป๊การ์ตูนชั้นนำทั่วไป
  • ร้านเน็ตทั่วไป(อย่างงกับกลุ่มเกรียน เนียนๆ)
  • ตาม งานคอสเพลย์ (อาจพกกล้องไปแอบถ่ายนางคอสเพลย์ต่าง ๆ ด้วย)
  • ทุกที่นั่นแหละ เพียงแค่มองไม่ออกเฉยๆ
  • โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ [2เดือนครั้ง/เดือนคู่]
  • ในกระจกเมื่อคุณหันไปมองมัน [คนเขียนแอบมั่นเล็กๆว่าถ้าไม่ใช่โอตาคุเอ็งไม่เข้ามาอ่านหรอก อย่าทำซึน >w<]

สิ่งที่ไม่ถือว่าเข้าข่ายการเป็นโอตาคุ

ในปัจจุบัน มีคนหลายคนที่เพียงชื่นชอบการ์ตูนหรืออนิเมะบางเรื่อง ก็เรียกตนเองว่าโอตาคุ ซึ่งถือได้ว่าเป็นความเข้าใจที่ผิด หากอยู่ในระดับนี้ยังไม่ถือว่าเป็นโอตาคุแต่อย่างใด สำหรับสิ่งที่ถือได้ว่ายังไม่เข้าขั้นการเป็นโอตาคุมีดังต่อไปนี้
  • ชื่นชมการ์ตูน มังกะ อนิเมะแค่เพียงไม่กี่เรื่อง และเป็นชื่นชอบจากการตามกระแส
  • ดูอย่างเดียว แต่ไม่ได้เสียเงินเพื่ออย่างอื่นที่สิ้นเปลืองกว่าเช่นฟิคเกอร์ หรือสั่งซื้อบลูเรย์ลิมิตอิดิทชั่นของเรื่องนั้น
  • เงินในกระเป๋ามากกว่า 50% ไม่ได้ใช้ไปกับการ์ตูน
  • ยังพูดกับคนอื่นรู้เรื่อง

ศัพท์เฉพาะของโอตาคุ


สูตรตารางธาตุเคมีสไตล์โอตาคุ





ที่พิมพ์ตัวหนาคือสัญลักษณ์ธาตุนะ - -บางชื่อขอสลับตำแหน่งนามสกุลกับชื่อนะ จะได้ตรงกับสัญลักษณ์ธาตุ
คาบที่ 1 (แนวนอนนะ)ไฮโดรเจน - Haruhi
คาบที่ 2คาร์บอน - C.C.ไนโตรเจน - Nanoha
คาบที่ 3โซเดียม - Nagatoซัลเฟอร์ - Sakiคลอรีน - Clannadอาร์กอน - Air
คาบที่ 4โพแทสเซียม - Konataแคลเซียม - Canaanสแคนเดียม - School daysไทเทเนียม - Taigaวานาเดียม - Vocaloidแมงกานีส - Minami Keแกลเลียม - Galaxy angelอาร์ซีนิค(สารหนู) - Asukaคริปตอน - Kara no kyoukai
คาบที่ 5สตรอนเทียม - Sora no otoshimonoอิตเทรียม - Yuiเซอร์คอนเนียม - shiZuruโมลิบดีนัม - Mioเทคนีเซียม - onegai Teacherโรห์เดียม - Reimu hakureiพัลลาเดียม - Polide อินเดียม - Indexดีบุก - Shanaพลวง - Saberซีนอน - idolmaster Xenoglossia
คาบที่ 6ซีเซียม - Card capter sakuraแบเรียม - Bakemonogatariแลนทานัม - Lee rankaรีเนียม - Renaแทลเลียม - Teleport (ความสามารถของคุโรโกะ)
คาบที่ 7ฟรานเซียม - Frandle (ธาตุนี้เกิดมาเพื่อฟรานโดยเฉพาะ )เรเดียม - Rei ayanamiดุบเนียม - Dragon ballซีบอร์เกียม - Shugo caraแฮสเซียม - Hidamari sketchดาร์มสแทดเทียม(เอกา-แพลตินัม หรือ อุนอุนนิเลียม - -) - ก็ Ds น่ะแหละ -*-เรินด์เกเนียม(อุนอุนอุนเนียม - -) - Railgun (คงไม่ต้องบอกนะเพราะอะไร)
แลนทาไนด์ (แถวแยกที่ 1)เพรซิโอดิเมียม - Pretty cureนีโอดิเมียม - Nadekoซามาเรียม - Sailor moonยูโรเพียม - Eureka sevenเทอร์เบียม - Tabasaโฮลเมียม - Holoอิตเตอร์เบียม - Yotsubaลุเทเนียม - Luise
แอคทิไนด์ (แถวแยกที่ 2)โพรแทคทีเนียม - Pants (เข้ามาก )เนปทุเนียม - Nipa῀῀เบอร์เคเลียม - Baka testเมนเดเลเวียม - Madobe nanami
จำได้แค่นี้อ่ะ ที่เหลือก็มีพวกคุ้นๆ กับจำชื่อไม่ได้เท่านั้นแหละ
จากคุณ : JBoyMaso 

คำศัพท์ที่ใช้ในวงการโอตาคุ

โดจินของเหล่าโอตาคุ

  • Anime (อนิเมะ) - ย่อมาจากอนิเมชั่น หมายถึงภาพเคลื่อนไหว ถ้าเป็นประเทศอเมริกาจะใช้คำว่า Cartoon
  • OVA / OAV (โอวีเอ / โอเอวี) - Original Video Animation / Original Animation Video เป็นพวก Anime ที่ไม่ฉายทาง TV แต่ทำ VCD / DVD ขายเลย (ส่วนใหญ่จะเป็นแบบสดใสไร้หมอกควัน)
  • OAD (โอเอดี) - Original Animation DVD ความหมายเหมือน OVA / OAV ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น DVD (แล้วถ้าเป็น Blu-ray ล่ะ?)
  • ONA (โอเอ็นเอ) - Original Net Animation ความหมายเหมือน OVA / OAV แต่ปล่อยให้ดูผ่านเน็ตเท่านั้น
  • Manga (มังงะ) - หมายถึงหนังสือการ์ตูน ถ้าเป็นประเทศอเมริกาจะใช้คำว่า Comic
  • Doujin, Doujinshi (โดจินชิ) - ของทำมือ เช่นการ์ตูนทำมือ ซอร์ฟเกมส์สร้างเอง พวงกุญแจ ฯลฯ แต่มักใช้หมายถึงการ์ตูนทำมือ โดจินพวกนี้มักจะมีราคาแพงเพราะทำออกมาจำกัด มีหน้าปกและกระดาษอย่างดีถ้าพวกที่ซีร็อกซ์เอาจะถูกหน่อย แต่จำนวนหน้าและลายเส้นไม่ได้ดีกว่าพวกการ์ตูนเล่มละ 40 เลย หลังๆถ้าพูดถึงโดจินมักจะถูกเหมารวมว่าเป็นการ์ตูนโป๊(H-Doujin) ซะมากกว่า
  • Figure (ฟิกเกอร์) - โมเดลลงสีสำเร็จราคาแพงขนาดใหญ่ ส่วนมากราคาตกประมาณ 1500 บาทขึ้นไป
  • Kachapong (กาจาปอง ) - มาจากคำว่า "กาจ๊าง เสียงตอนโมเดลบรรจุไข่ตกลงมา " เป็นฟิกเกอร์ลงสีสำเร็จบรรจุไข่ ราคาถูกกว่าฟิกเกอร์ประเภทข้างบนมาก ตกลูกละ 80 บาท มีเป็นชุดชุดละประมาณ 5-6 ตัวบางชุดจะมีตัวลับซ่อนอยู่ด้วย
  • Cosplay (คอสเพลย์) - ย่อมาจากคำว่า Costume Playing หมายถึงการแต่งตัวเลียนแบบตัวละครหรือตัวการ์ตูนต่างๆที่ชื่นชอบการคอสเพลย์โดยการห้อยผ้าขนหนูสีเหลืองบริเวณลำคอ หรือถือดาบที่ทำเองอย่างเดียวเดินร่อนรอบงาน ถือว่าเป็นปมด้อยของผู้คอสนั้นๆ (ความเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้า ) - ทุนน้อย,ไม่กล้า - อ่อน
  • Layer (เลเยอร์) - ย่อมากจาก Cosplayer แปลว่านักคอสเพลย์ จะคอยไปคอสเพลย์ตามงานการ์ตูนเพื่อให้คนอื่นจำได้ (ครั้งสองครั้งจึงไม่นับว่าเป็น Layer) ส่วนใหญ่เป็นพวกฐานะดีบ้านมีอันจะกิน เพราะชุดคอสราคาแต่ละชุดส่วนมาก 1000 บาทขึ้นไปและไม่ค่อยซ้ำในแต่ละงานาการด้วย
  • Coslover (คอสเลิฟเวอร์) -มีความหมายเหมือนเลเยอร์ทุกอย่าง แต่จะใช้กับพวกคนหน้าตาไม่ดี(หน้าเหี้ย) บางทีหน้าตาบางคนอาจจะเหมือนแรงงานอพยพ บางคนอาจจะเหมือนพระเจ้าเหา แต่อยากแต่งคอสเป็นพระเอกนางเอกของเรื่องที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งมักจะโดนโอตาคุจับกิน สาปแช่ง ด่าทอ ร่อแร่ ฯลฯ อยู่เสมอ
  • Idol (ไอดอล) - คำแสดงยศชั้นสูงของเลเยอร์ เมื่อคอสเพลย์หลายๆครั้งเข้าจนคนจำได้และ + กับมีหน้าตาดีกว่าปกติ จะได้เลื่อนยศมาเป็น Idol ได้
  • Gardian (การ์เดี้ยน) - องครักษ์พิทักษ์ไอดอล มีทั้งแบบร้องขอและแบบไม่ร้องขอ โดยอย่างหลังส่วนมากเป็นพวกโอตาคุชายโรคจิต ที่ชื่นชอบเป็นแฟนคลับของไอดอลคนนั้นๆ
  • Pramool Webboard (ประมูลเว็บบอร์ด) - แหล่งพูดคุย(สื่อสาร)อีกแหล่งของโอตาคุ เป็นลักษณะค่อนข้างสาธารณะ โดยแบ่งเป็นห้องๆให้คนมาตั้งหัวข้อเรื่องต่างๆ เพื่อมาพูดคุย แสดงความคิดเห็น รวมทั้งทะเลาะระหว่างสมาชิกบอร์ดด้วยกัน
  • ตุรกี (Tirkx) - แหล่งรวมอนิเมะโหลดตรง (Direct Download) กรุณาอย่าเผยลิงค์ในที่สาธารณะ!
  • Bakadetsu - แหล่งรวมอนิเมะแบบโหลดบิท (Open Torrent) แบบถูกกฎหมายเพียงแห่งเดียวของประเทศไทยในขณะนี้ (ถ้าไม่นับรวม Bit@nime ที่ปิดตัวไปชั่วคราวแบบไม่มีกำหนดเปิด) โหลดได้โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกและไม่มีค่าเรโช ไม่ผิดกฎหมาย (ไทย) เพราะมีเฉพาะแฟนซับที่ยังไม่มีลิขสิทธิ์ (LC) ในไทย จะเรียกว่าเป็น Tirkx แบบบิทก็ได้
  • หอสมุดโตเกียว (Tokyo-Tosho) - แหล่งรวมอนิเมะแบบโหลดบิท (Open Torrent) โหลดได้โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกและไม่มีค่าเรโช แต่เป็นบิทนอก เนื่องจากเว็บนี้มี "ของมืด" ให้โหลดกันด้วย โอตาคุชาวไทยจึงไม่นิยมเอาลิงค์มาโพสต์ตามเว็บบอร์ด (เพราะอาจผิดกฎและโดนแบนได้) แต่จะใช้วิธีเรียกเว็บนี้ด้วยชื่อโค้ดเนมว่า "หอสมุดแห่งชาติ" ก็เป็นอันรู้กัน
  • เหมียวท่อ / เหมียวทะเล้น (Nyaa Torrents) - เหมือนหอสมุดโตเกียว และบางครั้ง Torrent ในหอสมุดโตเกียวก็มาจากเหมียวท่อนั่นแหละ
  • Fansub (แฟนซับ) - การ์ตูนแปลโดยกลุ่มผู้ชื่นชอบที่ทำด้วยใจรัก, สิ่งผิดกฏหมายที่ทำให้ถูกต้องโดยการเอามาเผยแพร่ในประเทศที่ไม่มีลิขสิทธิ์ แฟนซับของแท้นั้นต้องแจกจ่ายให้โหลดไปชมกันได้ฟรี ๆ โดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทนทางการค้าหรือหากำไร (แต่ก็ไม่วายที่จะโดนมือดีฉกไปไรท์ใส่แผ่นขายอยู่ดี)
  • License (ไลเซ่น) - ลิขสิทธิ์, คำศัพท์ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ โดยเจ้าของจะสามารถทำกับมันอย่างไรก็ได้ ซึ่งที่ทำให้คนทั่วไปอดดู และหันไปสั่งตรงจากต่างประเทศ
  • Pirate (ไพเรท) - ของไม่มีลิขสิทธิ์ ของขโมยมา ถ้าเป็นหนังสือการ์ตูนหน้าปกมักจะยั่วยุกามารมณ์แต่ข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง
  • Spoiler / Spoil (สปอยล์เลอร์ หรือ สปอยล์) - การเล่าเรื่อง การเล่าฉากสำคัญๆ ก่อนที่จะรู้ หรือบอกให้รู้ว่าฉากจบเป็นอย่างไร (ทำให้คนที่ยังไม่ได้ดูและกำลังจะดูหมดสนุกและเซ็งไปในทันที)
  • ปาหมอน - ฉากจบในตำนานของการ์ตูนเรื่อง ชาร์แมนคิงที่อุตส่าห์แต่งมาตั้งนาน สนุก และมีรวมเล่มเป็นสามสิบสี่สิบเล่ม แต่ตอนจบดันจบแบบไม่เคลียร์ ด้วยการ ปาหมอน ในตอนสุดท้าย
  • ไนซ์โบ๊ท (Nice Boat) - มาจากอนิเมะเรื่องสคูลเดย์ (วันโรงเรียนส์)ในเวลาก่อนที่จะฉายตอนสุดท้ายนั้นมีเหตุฆาตกรรมแฟนโดยมีดฟันที่คอและตัดหัวมาเก็บไว้ จึนทำให้ผู้ฉายคิดว่า อาจจะโดนข้อหาเป็นเหตุยุยงให้เกิดอาชญากรรมขึ้นมา เลยจัดการแก้ปัญหาโดยการเอาภาพเรือมาให้ดูแทนภาพฆาตกรรม ฟันหัวดังกล่าว (ทำไปได้ = =")
  • VCD - สื่อรูปแบบหนึ่งที่นำออกมาขายเพื่อทดลองว่าจะทำออกมาเป็น DVD ดีหรือเปล่า, สื่อราคาถูกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการการ์ตูนโดยไม่ใส่ใจการพากย์และคุณภาพมากนัก
  • DVD -สื่อรูปแบบหนึ่งที่โอตาคุยอมเสียเงินมากกว่า 3 เท่าของ VCD เพื่อเอาเสียงพากย์ต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น แน่นอนว่าคุณภาพของภาพและเสียงย่อมดีกว่า VCD เช่นกัน
  • Censored (เซ็นเซอร์) - การปิดบังซ่อนเร้น เหยื่อที่โดนมักเป็นหนังสือและVCDการ์ตูน โอตาคุหลายคนจะออกมาต่อต้านการกระทำเช่นนี้ของประเทศไทย เพราะว่าทำให้พลังความโมเอะลดลง
  • Shonen (โชเน็น) -การ์ตูนผู้ชายทั่วๆไป
  • Shojo (โชโจ) - การ์ตูนผู้หญิงทั่วๆไป
  • Fujoshi (ฟุโจฉิ)(腐女子)(สาววาย) - เหล่าสตรีพันธุ์โอตาคุผู้มีจินตนาการอันสูงส่ง สามารถจับตัวละครเพศชายใดๆก็ตามตั้งแต่สองคนขึ้นไปมาวายกันได้

คำศํพท์เกี่ยวกับค่าพลังการ์ตูนต่างๆ

  • Holy (โฮลี่) - ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ใช้ย่อแนวของการ์ตูนประเภทต่างๆ หลักๆคือ 4 ตัวนี้ ( 4 ธาตุหลักสายพลัง H - O - L - Y)
  • E Ecchi(เอ็ตจิ) - ลามกเล็กๆ ทะลึ่งหน่อยๆ
  • H Hentai (เฮ็นไท)) -โรคจิต, ลามก ใช้เติมสรรพนามเพื่อเพิ่มความหมายคำว่าโป๊ เช่น H-Doujin (โดจินโป๊), H-Anime (การ์ตูนโป๊), H-Game (เกมส์โป๊) ฯลฯ
    • Tentacle (เทนตาเคิล) -ผู้ที่ชอบพวกประเภทหนวดๆ สิ่งที่เป็นเส้นๆ ทั้งหลายแหล่ มักจะปรากฏอยู่ในเกมส์โป๊ เพื่อข้อมูลปกปิด
    • Ren-Ai(เรนไอ) - เกมส์จีบสาว, H-เกมส์ แม้จะผิดกฏหมายแต่โอตาคุชายก็เต็มใจที่จะหามาในครอบครอง และหาเหตุผลอันชอบธรรมในการเสพ
    • Rape (เรพ) - พวกที่ชอบการข่มขืนกระทำชำเราประเภทฉีกเสื้อผ้า
    • Wet (เว็ท) - สายนี้จะชอบแนวความเปียกชื้นเปื้อนเปรอะเลอะไปทั้งหน้าและตา ( อะไรเปียกๆ -*- น้ำอะไรหว่า... )
  • (O Obacon (โอบาคอน)) - ผู้ที่ชอบคนที่มีอายุมากกว่า, นมโต --- Ojicon (โอจิคอน) ผู้ที่ชอบชายแก่ ตรงข้ามกะ Shotacon
  • (L Lolicon (โลลิคอน)) - ชอบเด็กหญิง ถ้าอายุจัดอยู่ในเกณฑ์โดนข้อหาพรากผู้เยาว์ให้จัดอยู่ในหมวดนี้ (แต่ก็มีคนจัดเกณฑ์ว่า จะอยู่ที่อายุ10 - 14 ปี หรือ หญิงสาวที่มีความสูงไม่เกิน 150 - 155 ซ.ม. รูปร่างขนาดไม่เกี่ยวขอให้น่ารัก )
    • Lolita (โลลิต้า) - พวกนิยมชุดสาวน้อยสีหวาน แนวๆ คุณหนูไฮโซ ประมาณยุคอังกฤษสมัยศตวรรษที่ 18-19 เช่นกัน มีโบว์และพู่ฟ่องๆ เยอะๆ
บางพวกนิยมนำมาผสมกับข้างบน ออกมาเป็นคุณหนู... (ปัจจุบันมีคนสับสนระหว่าง Gothic กับ Lolita กันเยอะ คนละอย่างนะจ๊ะ)
  • Gothic (โกธิค) - พวกเป็นปลื้มกับสีทึบๆ เป็นพิเศษ ส่วนใหญ่จะเน้นอยู่ที่ ขาว ดำ แดง
  • Shotacon (โชตะคอน) - ชอบเด็กชาย ถ้าอายุจัดอยู่ในเกณฑ์โดนข้อหาพรากผู้เยาว์ให้จัดอยู่ในหมวดนี้เช่นกัน
  • Y - รักร่วมเพศ แบ่งออกมาอีก 2 ประเภทคือ
    • Y Yaoi (ยาโอย) - กลุ่มสงวนพันธุ์ป่าไม้(เดียวกัน) ง่ายๆ ชอบพวกชอบเพศเดียวกันชาย แบ่งสายได้ 2 สายคือ
      • Seme YAOI (เซเมะ y สายรุก) เรียกสั้นๆ ว่าเมะ ชอบเข้าทางข้างหลัง
      • Uke YAOI (อุเคะ y สายรับ) เรียกสั้นๆ ว่าเคะ ชอบถูกกระทำทางด้านหลัง
      • Shonen-ai (โชเน็นไอ) ความรักบริสุทธิ์ระหว่างชายกะชาย [ไม่ติดเรท] - จัดอยู่ในสายขาวนะ
    • Y Yuri (ยูริ) - สมาคมอนุรักษ์ดนตรีไทย ง่ายๆ ชอบพวกชอบเพศเดียวกันหญิง แบ่งได้ 2 สายเช่นกัน
      • Seme YURI (เซเมะ y สายรุก) เรียกสั้นๆ ว่าเมะ ชอบแสดงตัวเป็นชาย
      • Uke YURI (อุเคะ y สายรับ) เรียกสั้นๆ ว่าเคะ ชอบถูกกระทำโดยเพศเดียวกัน
      • Shojo-ai (โชโจไอ) ความรักบริสุทธิ์ระหว่างหญิงกะหญิง [ไม่ติดเรท] - จัดอยู่ในสายขาวเช่นกันแม้จะผิดกฏหมายแต่โอตาคุหญิงก็เต็มใจที่จะหามาในครอบครอง และหาเหตุผลอันชอบธรรมในการเสพ
  • JIN (จิ้น) -มาจากคำว่า Imagine(อิเมจิ้น) แปลว่าจินตนาการ ใช้กับวงการ Y โดยผู้ใช้สามารถจิ้นให้ตัวละครนึงไปมีอะไรกับตัวละครเพศเดียวกันทั้งๆ ที่เนื้อเรื่องหลักจะไม่ได้มีอะไรกันเลยได้
  • Harem - (ฮาเร็ม)สายนี้จะเป็นพวกชอบอยู่ห้อมล้อมด้วยสาวๆ สวยน่ารักมากมายแถมด้วยทุกคนมารุมรักอีก - เช่น เนกิมะ
  • Gyaku-Harem (逆ハレム) - เหมือนกับแนวฮาเร็มทุกประการ แต่จะเปลี่ยนเป็นหญิงสาวถูกห้อมล้อมด้วยชายหนุ่มหน้าตาดี(ikemen + bishounen) พบใน Ouran Highschool Host Club, Yamato Nadeshiko Shichi Henge และ Otome Games ทั่วไป
  • SM Sadism&masokism - กลุ่มคนที่นิยมใช้ โซ่ เทียน แส้ กุญแจมือ ส้นสูง ม้าไม้ โดย Sadism คือผ่ายชอบทำร้ายผู้อื่น และ Masokism คือฝ่ายที่ชอบถูกทำร้าย
  • GuRo (กูโระ) - พวกที่ชอบการชำแหละ เลือด ฆ่า เครื่องใน ไส้
  • Psycho (ไซโค) - ความหมายตรงตัวหมายถึงพวกที่โรคจิตๆเล็กน้อยถึงปานกลางอีกความหมายหนึ่งหมายถึงพวกพลังจิตร คาแรคเตอร์พวกโรคจิตรอ่อนๆนี้อาจไม่พบเห็นได้มากนัก ยกตัวอย่างที่ดังๆก็เช่น L แห่งเดธโน๊ต เขาคนนี้ก็ติดเชื้อ P เหมือนกัน ส่วนคาแรกเตอร์มนุษย์พลังจิตร เช่น สามพลังป่วนพิทักษ์โลก(ไอ้นี้พลังจิตรทั้งเรื่อง) ไซโคบลาสเตอร์(ไอ้นี้พลังจิตรทั้งเรื่อง) โคอิทซึม(ฮารุฮิ) ไซโครเมทเรอ เอย์จิ(ไอ้นี้พลังจิตรทั้งเรื่อง)
  • Mahou (มาโฮ) - กลุ่มคนที่ชอบสาวน้อยเวทมนตร์ - อันนี้แน่นอน การ์ดแคปเตอร์ซากุระ นาโนะฮะ และแม่มดน้อยโดเรมี (ซึ่งมิได้หมายถึงโดเรมี่จากเรื่องโดเรม่อนแต่อย่างใด) และล่าสุดก็สาวน้อยเวท (มืด) (มน) มนตร์ มาโดกะ
  • Robot (โรบอท -)กลุ่มคนที่บ้าความเป็นเครื่องจักรกลอย่างเข้าไส้ ซึ่งสามารถที่จะบอกรุ่นความสามารถสรรถนะของหุ่นทุกตัวในโลกออกมาได้ ซึ่งสายนี้ค่อนข้างแยกได้ชัดโดยมีกันดั้ม เป็นผู้นำลัทธิ รองลงมาคือ เอวังเกย์เหลี่ยม - เรียกอีกอย่างว่า Mecha (หุ่นยนต์)
    • Real Robot (เรียลโรบอท) - หุ่นยนต์ที่อิงถึงหลักความเป็นจริงในทางวิทยาศาสตร์
    • Super Robot (ซูปเปอร์โรบอท) - หุ่นยนต์ที่ไม่อิงหลักความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์ เช่นมีพลังอภินิหาร แปลงร่างได้ ประกอบร่างได้ เป็นต้น
  • Computer - พวกชอบแนวคอมพิวเตอร์ที่คล้ายๆ กับมนุษย์ (ตูก็ชอบ) อาจเป็นหนุ่มสาวหน้าตาดีด้วย มีทั้งเป็นโปรแกรม และเป็นตัวเป็นตนในโลกความจริง - เช่น Chobits และ AI love (ดูเหมือนคอมชายจะไม่ค่อยมี)
  • Silent (ไซเลนท์) - สายนี้จะเป็นพวกที่ชอบตัวละครพูดน้อย ไม่พูดเลยยิ่งชอบ (แต่ไม่ได้เป็นใบ้นะ - -)และส่วนมากสายนี้ก็จะทำหน้าตาเหมือนคนอมทุกข์ ไม่ค่อยแสดงสีหน้าออกมาให้เห็น (หรือเรียกว่าหน้าตายก็ได้)
  • Maid (เมด) -กลุ่มคนที่ชอบชุดสาวใช้ สาวเสิร์ฟ ชุดเมด อะไรก็ได้ที่มีผ้ากันเปื้อน หรืออาจจะมีแต่ผ้ากันเปื้อนก็ได้ ชุดส่วนใหญ่เอามาจากยุคอังกฤษสมัยศตวรรษที่ 18-19
  • Miko (มิโกะ) -กลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ชอบสตรีในชุดขาวแดง (มิโกะ เป็น ผู้รับใช้พระเจ้าเป็นผู้หญิงที่ทำหน้าที่ดูแลศาลเจ้า)
บางครั้งมีการเพี้ยนออกไปในรูปแบบของชุดนักบวชในศาสนาอื่นก้อมีอยู่บ้างประปราย เช่น ชีเปลือย
  • Chounyou(โชเนียว) - พวกนิยมผู้หญิงโนตมๆ โนตมจริงๆ นะ ไม่เห็นกับตาไม่รู้หรอก - -" มักอยู่ควบคู่กับ H บางทีอาจจะเห็นว่ามีการวาด fanart แนว C ตามเว็บ H (ซึ่งมันแน่นอนอยู่แล้ว) เตือนไว้ก่อนเลยว่าโนมันไม่ตมธรรมดา
  • Megane (เมะกะเนะ) - สมาคมที่มีอยู่เพิ่มไม่ให้ แว่นตา หายไปจากโลกนี้ (พวกชอบหนุ่มสาวที่ใส่แว่น) และรังเกียจคอนแทคท์เลนส์ยิ่งนัก มีสโลแกนประจำกลุ่มเป็นที่เลื่องลือว่า" สาวแว่น สุดยอดดดดดดดดดด!!! "
  • Megami (เมก้ามิ หรือ เมงามิ ) - พวกชอบเทพธิดา นางฟ้า ชาวสวรรค์ อะไรเทือกนี้
  • Kemono (เคโมโนะ หรือ เคโมะ) - คนที่ชอบ พวกครึ่งคนครึ่งสัตว์ หรือ สัตว์ที่มีลักษณะคล้ายคนมากกว่าสัตว์ ยืนได้ พูดได้ เป็นต้น
  • Mimi (มิมิ) - พวกคลั่งหู จะรวมๆใน พวกหูแมว หมา กา ไก่ (เฮ้ยๆ)
    • Nekomimi (เนโกะมิมิ) กลุ่มคนที่คลั่งไคล้ หูแมว และหางแมว
    • Inumimi (อินุมิมิ) คล้ายๆกับ Nekomimi แต่จะเป็น หูหมาหางหมาแทน - ใครชอบอินุยาฉะรู้ตัวซะว่า....
    • Usagimimi (อุซาหงิมิมิ) ก็เหมือนกับข้างบนอีกแหละ แต่เป็นกระต่าย
  • Animal (แอนนิมอล) -ตรงตัวเลย สายสัตว์เห็นๆ มีมากจนแทบล้นในเรื่อง วันพีซ
  • Change (เชนจ์) - พวกที่ชอบในด้านการแปลงเพศ สลับเพศ (แต่อาจจะหมายถึงพวกชอบแปลงร่างก็ได้) - เช่น รันม่า1/2 อุลตร้าแมน
  • K Kinniku (คินนิคุ) - พวกที่ชอบจนถึงคลั่งไคล้ในมนุษย์จำพวกที่มีกล้ามใหญ่ๆ - เช่น เคนชิโร่ บากิ คินนิคุแมน ดราก้อนบอล - (โดยส่วนใหญ่ โอตาคุจะเกลียดแนวนี้มาก แต่ไม่มีผลอะไรกับเกรียน)

  • Incest (อินเซสต์) - รักต้องห้าม รักระหว่างสายเลือด (พ่อลูก แม่ลูก พี่น้อง) ระยะหลังจะเริ่มได้ยินประโยคที่ว่า "ก็ศีลธรรมมันค้ำคอร์" (ค้ำคอร์ = ค้ำคอ + ฮาร์ดคอร์)

  • Siscon (ซิสคอน) - พวกบ้าพี่ชายน้องสาว [ในสายเลือดรึตามกฎหมาย]

  • Twincest (ทวินเซสต์) - ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าทวิน ใช่แล้ว ความรักของฝาแฝดนั่นเอง อันนี้ค่อนข้างจะสับสนกับ I ซักหน่อย คาดว่าคงแตกย่อยออกมา

  • Fetishism (เฟติชม์) - คือ พวกชอบสิ่งของหรือเครื่องแต่งกายเพศตรงข้าม รวมไปถึงพวกชอบแต่งกายในชุดยูนิฟอร์มต่างๆ (ชุดตำรวจ ชุดนางพยาบาล etc.)

  • Futanari (ฟูตานาริ) -คือ พวกที่นิยมชมชอบพวกมนุษย์สองเพศ กล่าวคือพวกผู้หญิงที่มีตุ้มน้อยนั่นเอง อาจเรียกอีกชื่อว่า Dick Girl

  • Sport - สายนี้ค่อนข้างจะบ้าพลังเอามันทุกอย่าง กูจะเล่นกีฬาทุกประเภท ซ้ำยังมีท่าไม้ตายเวลาจะเล่นอีก เอาก๊ะมันดิ เคยมีเพื่อนคนนึงมันทดลองจะเตะลูกจากครึ่งสนามไปที่โกลตามแบบซึบาสะ มันบ้า - คำเตือนเวลาเล่นกีฬากะไอ้พวกนี้กรุณาเอาที่อุดหูมาด้วย เพราะเสียงดังน่ารำคาญยิ่งนัก

  • Rider (ไรเดอร์) หรือ Masked Rider (มาสก์ ไรเดอร์) หรือ Kamen Rider(คาเมน ไรเดอร์) หรือ ไอ้มดแดง - สายนี้ค่อนข้างแยกตัวออกเป็นเอกเทศจากสายอื่นเนื่องจากภูมิใจในประวัติอันยาวนานของตนเองเเละพัฒนาการที่ก้าวหน้าจากฮีโร่ไร้สาระกลายเป็นฮีโร่เพื่อชีวิต-สร้างสรรค์สังคม-เน้นความรัก และเลิกกระโดดถีบโดยหันมาใช้ดาบและปืน มือถือ ติดการ์ดในการต่อสู้เเทน โดยที่ยังคงอยู่คือท่าแปลงร่างที่คนในสายนี้จะจำได้หมดไม่ว่ามันจะออกมากี่ตัวต่อกี่ตัวก้อเถอะ - ช่วงหลังๆออกมาเยอะถึงขนาดตั้งทีมฟุตบอลได้ทีเดียวเชียว

  • Ranger (เรนเจอร์) - สายเพื่อนสนิท - นี้ถ้าไม่รักกันจริงคงอยู่ด้วยกันไม่ได้ คนที่อยู่สายนี้จะไม่พยายามที่จะอยู่ตัวคนเดียวเป็นอันขาดและจะทำการจับกลุ่ม 3-5 คนเข้าไว้โดยมีการกำหนดสีกันอย่างชัดเจน โดยอ้างว่าเวลาอยู่คนเดียวไม่สามารถเรียกหุ่นยนต์ออกมาได้ ซึ่งหากรวมๆ กับไรเดอร์แล้ว ก็จะถูกเรียกว่า Live Action Hero

  • Seiyuu (เซย์ยู) - สายรักกลุ่มคนเบื้องหลัง พวกเขาคือเหล่าโอตาคุที่เทิดทูนเสียงพากษ์และเหล่านักพากษ์(声優) มีความสุขกับการนั่งฟังดราม่าซีดี และเลือกอนิเมที่จะดู(โหลด)ด้วยการตรวจสอบรายชื่อ CAST หากคนกลุ่มนี้ดูหนังแนวไรเดอร์ ก็มักจะไปชื่นชมพวกตัวทารอส(หรือตัวอะไรก็ได้ที่มีการพากษ์แสียง)แทนที่จะเป็นตัวเอกหน้าตาดี ถ้าอยู่ที่ญี่ปุ่นก็จะพบได้ตามแถวๆเวทีงานอีเว้นท์ที่เซย์ยูไปปรากฎตัว คนกลุ่มนี้จะใชสมองกว่าครึ่งไปกับการจำว่าตัวละครตัวนี้ใครพากษ์ ชื่ออะไร และพากษ์เรื่องไหนอีกบ้าง 99%ของโอตาคุกลุ่มนี้ไม่ดูอนิเมพากษ์ไทย ถึงตายก็ไม่ดู เสียงมันไม่โมเอ้

  • Moe (โมเอะ = โมมมมม-เอ่อ่อ่อ่อ่) - ถ้าใครอ่าน comic party จะเคยเห็นคำนี้ตอนที่โอตาคุผู้ชายตะโกนเมื่อนเห็นมิซึกิแต่งคอสเพลย์ ใช่แล้วล่ะพี่น้อง! โมเอะเป็นคำที่ใช้เรียกผู้หญิงน่ารักๆ ออกจะสับสนกับ L พอสมควร แต่โมเอะไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กกว่าเรา ดังนั้น โอตาคุผู้ชายหลายคนจะบ้าโมเอะกัน วิธีการวัดความโมเอะทำได้โดยให้เราจ้องดูสิ่งที่เราคิดว่าโมเอะแล้วกินข้าวเปล่าตามแทนกับ หากกินได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งแปลว่าโมเอะมาก บางคนให้คำนิยามของคำว่าโมเอะว่า ความรักใคร่อันวิปริตของโอตาคุ

  • Politics(โพลิทติคส์) - แนวล้อเลียนการเมือง ส่วนใหญ่มักจะเป็นโดจิน

  • Tsundere(ซึนเดเระ) - แปลว่ารักนะแต่ปากแข็ง ถึงใจจะรักจะชอบยังไงแต่ก็ไม่มีทางออกปากหรือแสดงท่าทางที่บอกว่าชอบอย่างเด็ดขาด

  • Yandere(ยันเดเระ) - แปลว่ารักนี้มีเชือด รักแบบสามารถเชือดได้ทุกคน ไม่ใช่พวกซาดิส แต่รักอย่างเอาจริง พร้อมจะเชือดคนที่รักหรือคนที่เป็นศัตรูหัวใจได้ตลอดเวลา

  • Deredere(เดเระเดเระ) - แปลว่ารักจริงนะติงติงนัง รักธรรมดาแบบคนทั่วไปที่จะรักกันนั่นแหละ แต่ถือว่ารักจริงหวังแต่ง ไม่ใช่แค่หวังฟัน

  • Tundra(ทุนดร้า) - มุกคำพ้องเสียงกับซึนเดเระ ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงคล้ายกัน แต่มันจะหมายถึงเย็นชาราวกับที่ราบทุนดร้าที่เปล่าเปลี่ยวมีแต่หิมะ ไม่ได้รักหรือรู้สึกอะไรแม้แต่น้อย

  • Sudden Girlfriend Appearance (ซัสเด้น เกิร์ลเฟรน แอฟเพียเร้นต์) - แนวใหม่ที่กำลังมาแรง แบบว่าอยู่ดีๆก็มีคนมารักเรา(โชคดีไปมั้ย) เช่นเรื่อง Yosuga no Sora หรือจะเป็นอย่าง Fortune Arterial หรือจะเป็นแนวอย่าง To Love Ru ก็ตามทีส่วนใหญ่จะพบในอนิเมะพวกแนว Harem มากกว่าเพราะมันพ่วงมาด้วย


  • เกร็ดเกี่ยวกับโอตาคุ


    ร้านโอตาคุเมืองนอก (แอดเลด เซาท์ออสซี่)


    เมื่อไอ้ขี้เมา เผชิญหน้ากับโอตาคุญี่ปุ่น

    นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดในปี พ.ศ.2550 ซึ่งในตอนนั้นไอ้ขี้เมา ยังไร้เดียงสา ไม่รู้ว่าโอตาคุคืออะไร วันนั้นเขาเดินหาห้องน้ำในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐบ้านนอกคอกนาของออสเตรเลียแล้วบังเอิญไปเจอโอตาคุนายหนึ่งแต่งตัวเป็นอุจิวะ ซาซึเกะ ทั้งๆที่ตัวแม่งก็ดำ (แต่ยังขาวกว่า Mr.D) เลยเข้าไปถาม

    เพื่อไม่ให้ทั่นงง เราจะบริการแปลให้เลย

    ไอ้ขี้เมา :"เฮ้ ซาซึเกะ นายรู้ป่ะห้องน้ำไปทางไหน?"
    ซาซึเกะ :" โทะ-เหละ?" (คำว่า Toilet แต่สำเนียงญี่หุ่น)
    แม่งย้อนถามผมว่าถามหาห้องน้ำใช่ไหม แล้วทำหน้างงๆ แต่สำเนียงแบบนี้ ญี่หุ่นชัวร์ ผมนึกในใจ
    ไอ้ขี้เมา :"ใช่"
    ซาซึเกะ :" ทางนู้น"
    แม่งตอบผมแบบส่งๆ แต่ด้วยความกวนตีนของผมๆเลยกวนมันไปว่า
    ไอ้ขี้เมา :"ซาซึเกะ นายคิดยังไงกะซากูระอ่ะ"
    ซาซึเกะ " ..."
    ไอ้ขี้เมา :"แล้วนายคิดไงติดตามโอโรจิมารุอ่ะ"
    ซาซึเกะ " ..."
    แม่งยังทำหน้าเงียบ ผมเลยควักบุหรี่ขึ้นมา
    ไอ้ขี้เมา :"นายช่วยใช้ นินจิตสึ(คาถานินจา)ของนายจุดบุหรี่ให้เราหน่อยดิ เราลืมเอาไฟแช๊กมา"
    คราวนี้แม่งไม่ตอบ เดินหนีไปเลย
    ไอ้ขี้เมา :"เฮ้! ซาซึเกะ ไปไหนวะ เฮ้ย! เฮ้!"

    ซึ่งตอนนั้นผมงงมากเลยว่าทำไม แต่เพิ่งมารู้ทีหลังว่า ที่แท้พวกโอตาคุไม่ชอบเข้าสังคมนี่เอง

    ขอบคุณจริงจริงไร้สาระนุกรม ที่ทำให้ผมหูตาสว่าง หายสงสัย ที่แท้เขาก็เป็นแบบนี้กันนี่เอง ทีหลังผมจะได้ไปถามหาห้องน้ำจากคนอื่น จะได้ไม่เป็นการรบกวนความสันโดษของพวกเขา

     รวมคลิปโอตาคุ

    โอตาคุ เวอร์ชั่น 300


    โอตาคุ เวอร์ชั่น เสื่อม (กลัวเสียสายตา อย่าเปิด)

    • อ๊ากกก ตาของ ช้านนนน
    • Ahhhh!! My Penis!!! by G-F
    • มันเกี่ยวกับ Penis ตรงไหน?? S.A.T.O.
    • by.ราชาคิมหันต์
    • เสื่อมดีเนอะ เล่นซะ ซากุระไม่เหลือซากเลย by cane491
    • จะอ้วกวะby hayate

    พิธีกรรมทางศาสนาของเหล่าโอตาคุ



    รู้ไหมใช่ว่า(มันคือTIP)

    • ฟิกจีน ราคาถูก พอดูได้(บางทีดูแลน่าเกลียดก็ไม่อยากซื้อ) ไม่ทน ขายเกลื่อน
    • ฟิกแท้(ญี่ปุ่น) สวย ทน แต่โคตรแพง และบางอย่างโคตร RARE!!!
    • โอตาคุบางคนจะอยู่เป็นกลุ่ม เช่นเดียวกับ ติ่งหู นะ
    • อยากไปงานคอสต้องไปตรงเวลาเปิดอย่าไปเรตแม้แต่วินาทีเดียว
    • งาน Capsule Event จัดทุกต้นเดือน พลาดไม่เป็นไร(เดือนต่อไปก็ยังมี)
    • งาน TGS TGA Big Festival(ความจริงเป็นงานเกมแหละแต่จะพ่วงงานคอสเพลยมาด้วย)Oishi Cosplay Cosplay Worldและบางงาน อย่าพลาดเด็ดขาด ถ้าพลาดแล้วจะเสียใจ งานเหล่านี้แนะนำให้มาตอนเสาร์-อาทิตย์(ถ้าจัดหลายวัน)
    • โอตาคุใจดีจะตาย(เนอะ)อารมณ์ดีและฮาด้วย(หรือเปล่า)
    • คนที่แต่งคอสส่วนใหญ่มางานไม่ได้ทุกครั้งหรอก(ถ้าฐานะไม่ดีคริง) เพราะคำตอบเดียวคือ ไม่มีตัง(ตังหมดไปกับชุดคอสเพลยแล้วครับ)
    • เป็นโอตาคุควรอ่านและเขียนภาษาญี่ปุ่นออกนะจ๊ะ
    • เวลาไปงานโปรดระวังบังตากล้องที่ถ่ายคอสทุกมิลลิเมตร
    • คนไปงานคอสส่วนใหญ่จะมีกระเป๋าสะพาย หรือ เป้ แบก(ไม่รู้เป็นไร)
    • พวกที่แต่งตัวแนวทเห่อ ตำกวด คอมมานโด่ ถือปืนBB ก็เรียกว่า คอสเพลยเหมือนกัน
    • โอตาคุมีจำนวนมากเหมือนกันนะ
    • แปลซัพไม่ใช่ง่ายนะเธอว์
    • เว็บดราม่าโอตาคุเยอะนะจะบอกให้
    • คอสบางทีแต่เพื่อความฮา เพื่อความตลกขบขัน กรุณาทำใจ
    • คอสบางคนแต่งไม่เหมือนกรุณาอย่าว่า เพราะเขาทำด้วย ใจ
    • ดูโดจิน กรุณาทำใจ
    • สินค้าทำบางอย่างไม่เหมือนก็อย่าบ่น เพราะเขาใส่ใจทำด้วยใจรัก
    • กฎหมายของญี่ปุ่นที่บอกว่าแบนโลลิค่อน รู้สึกว่า ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ หวะ
    • โอตาคุส่วนใหญ่จน เพราะหมดไปกับ คอสเพลย ฟิก และ เนนดรอย
    • โอตาคุ เป็นคนธรรมดา ไม่ใช่โจร ฆาตรกร มาเฟีย ผี ปีศาจ เอเลี่ยน โปรดเป็นกันเอง
    • ของหื่นไม่แปลกเพราะต้องมี(สำหรับโอตาคุผู้ชายทุกคน)555+
    • โอตาคุต้องติดเกมควบกับการ์ตูน(งงหวะอย่างใดอย่างหนึงไม่ได้)(แต่ถ้าเกมมากกว่าการ์ตูนมากๆ จะเป็นGamerแทน อย่าสับสน)
    • หัดทำงานทำการซะบ้างพวกไร้ประโยชน์
    (มีอะไรดี บอกต่อหรือแก้ไขได้นะ จุ๊ฟ)
    • โอตาคุ ทำให้เศษรฐกิจ ในญี่ปุ่นดีน่ะ โอตาคุบางคนรวยมากๆด้วยละ555555+


    รายนามส่วนหนึ่งของกลุ่มบุคคลที่อาจเข้าข่ายว่าเป็น โอตาคุ

    แบบทดสอบความเป็นโอตาคุ
    ....ทุกๆคนที่อ่านบทความนี้ไง!รวมผู้เขียนบทความไปด้วยก็จะดี ข้อมูลแน่นดีว่ะ
    • ไร้ชีวประวัติ:เหลือบหริ่งเรไรแห่งวงการการ์ตูนไทย
    • โรงพยาบาล H

     

    ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโอตาคุ

     ฮิคิโคโมริ

    • ฮิคิโมริ คือชื่อเรียกของคนที่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านและไม่ยอมที่จะออกไปไหน โดยสาเหตุที่เกิดมีได้หลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะเกิดจากการได้รับแรงกดดันทางสังคม หรือมีความหวาดกลัวต่อสังคม จนทำให้ไม่กล้าที่จะออกไปไหน ได้แต่หมกตัวอยู่แต่ภายในบ้านหรือห้องของตนเพียงเท่านั้น
    • ฮิคิโมริไม่เกี่ยวข้องกับโอตาคุ หากแต่ฮิคิโมริบางคนจะมีอาการของโอตาคุเนื่องจากการที่ไม่สามารถทำสิ่งอื่นได้จนต้องหาสิ่งบันเทิงใจมาเสพซึ่งทำให้สามารถกลายเป็นโอตาคุได้ในที่สุด
    • ตัวอย่างความเข้าใจผิดที่เกี่ยวกับคนที่เป็นฮิคิโมริ
      • สิ่งมีชีวิตที่ว่ากันว่าอันตรายยิ่งกว่าโอตาคุ แต่ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด ได้ยินมาว่าคือโอตาคุที่ได้รับแรงกดดันทางสังคมมากๆ จนมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว รุนแรง เก็บตัว ไม่ชอบออกไปไหน ไม่สุงสิงกะใคร ไม่ยอมฟังและรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นเลย พอทำอะไรผิดพลาดก็ยอมรับไม่ได้ว่าตัวเองผิด สังเกตง่ายๆคือติดบ้านซะยิ่งกว่าโอตาคุ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาจากโอตาคุเหมือนกัน ปัจจุบันยังหายากอยู่ มีชื่อเล่นว่าฮิคกี้
    • บทความเกี่ยวกับ ฮิคิโคโมริ

    คำวิพากษ์วิจารณ์

    • เป็นโอตาคุน่ะ ไม่สนุกหรอก อยู่แต่ในโลกวัตถุ มาอ่านร่างรัฐธรรมนู้บหรือไม่ก็คัมภีร์พระไตรปิฎกดีกว่ามั้ย
    • โอตาคุกับพวกบ้าการ์ตูนหรือแฟนพันธุ์แท้มันคนละเรื่องกัน เกรียนไทยกรุณาอย่าสับสน
    • คำว่าโอตาคุที่พันทิปวินิจฉัยแล้ว ว่ามันเป็นคำด่าไม่ใช่คำชม ดังนั้นกรุณาอย่าเอามาเรียกตนเองด้วยความภูมิใจเลย
      • ขึ้นกับบริบท หรือคำอื่น ๆ รอบ ๆ ด้วย เพราะยังมีบางคนที่ลึกๆแล้วยังแอบภูมิใจที่เป็น อตค. (เหมือนที่มีบางคนแอบกล่าวว่าตนภูมิใจที่เป็นกะเทย)
    • ทุจศิล กินชะมัดได้กล่าวไว้ว่าพันทิปไม่ใช่พ่อ
    • แค่อ่านการ์ตูน หรือดูอนิเมะ มันไม่ใช่โอตาคุ ลองอ่านข้างบนให้มันละเอียดอีกทีสิ
    • นอกจากร้านตามห้างต่างๆ แล้วนะ โอตาคุยังมีที่ราชมังคลา กับทำเนียบรัฐบาลด้วย
    • โอตาคุ หาใช่ส่วนเกินของสังคมไม่ หากรู้ว่าตัวเองเป็น และผู้คนรอบข้างก็มองว่าตัวเองเป็น ก็จงยอมรับซะ (อย่ามาซึนเดเระ!) ไม่ใช่พร่ำบอกอยู่ร่ำไปว่า
    "ผมไม่ใช่โอตาคุ!!!"
    • แต่คนที่เป็นแค่ mania ก็ไม่ใช่อวดดดีบอกว่า
    "ผมเป็นโอตาคุ!!!" ทั้งๆที่ตัวเองก็ดีแค่การ์ตูนตามกระแส
    • โนบิตะเป็นโอตากุต้องแต่งงานกับไจโกะนักเขียนการ์ตูน
      • แต่อย่างน้อยก็ยังจัดว่าเมพกว่าบางคน ที่ไม่สามารถหาคนมาเป็นคู่แต่งงานได้เลย จวบจนวันตาย
    • หนุ่มแว่น สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!
    • จากที่อ่านมาส่วนบนพวกคุณดูโอตาคุผิดไปหลายอย่างโอตาคุไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้นซะหน่อย เป็นมนุษย์เหมือนกัน แล้วก็อีกอย่าง โอตาคุ ดีกว่า "เกรียน" ที่ด่าคนอื่น(เช่นด้านบนทั้งหลาย)เป็นไหน
    • ถึงโอตาคุ จะไม่เป็นที่ยอมรับ แต่ไม่ใช่ให้ใครมาเรียกว่าเกรียน อย่ามาเหมารวมอย่างนั้น !! "โอตาคุ ก็เป็นคน มีสมอง เหมือนพวกเราทุกคน" หรือว่าไม่จริง โอตาคุ ไม่น่ารังเกลียดเสมอไปหรอก
      • แต่เกือบ 100% ของโอตาคุมักทำตัวน่ารักเกียจ และพูดจาไม่รู้เรื่อง !!
    • โอตาคุ ไม่เดือดร้อนใคร แต่ก้อน่ารำคาญมาก
    • อะไรคือโอตาคุ?
    • โอตาคุ ที่ดีๆก็มี ที่สะอาด ไม่น่ารังเกียจ โอตาคุบางคนยังฉลาดกว่าเกรียนบางคนด้วย โอตาคุ ไม่ได้ตัดสินที่ความสนุกซะหน่อย ความชอบต่างหาก!!!ละ อย่ามาห้ามน่ะ ความชอบห้ามได้ที่ไหนละ
    • โอตาคุมีฮีโร่คือโอตาคุแมน
    • โอตาคุอาจจะหมายถึงพวกคลั่งไคล้สิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ได้ เช่น โอตาคุจตุคามฯ เป็นต้น
    • แต่ก็มีบางคนบอกว่าโอตาคุไม่ใช่พวก Mania ร้อก เพราะโอตาคุน่ะหนักกว่านั้นเยอะ~
    • ญี่ปุ่นมีโอตาคุ ไทยก็มีเกรียนล่ะว้า
    • โอตาคุ"ผิด"ตรงหนาย~?-*-
    • โอตาคุไม่ได้เป็นแบบที่ข้างต้นว่าไว้เสมอหรอก ร.ร. เรามีโอตาคุอยู่ห้องกิฟต์ก็มี ไม่ได้หมายความว่าเป็นโอตาคุต้องอุบาทว์ สมองขี้เลื่อยซะหน่อยนิ
    แล้วที่พวกเค้าค่อนข้างจะมีความกล้าบ้าบิ่นเกินคนมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดไม่ใช่หรือไง ที่เค้าจะมีความกล้าแสดงออกสูงกว่าคนทั่วไป
    • บางครั้ง บางคน บางที่ - เหล่าโอตาคุ ก็เป็นเพราะสภาพแวดล้อม แล้วพอพวกเขาเป็นโอตาคุแล้วก็ยิ่งซ้ำเติมอีก มันก็น่าสงสารเช่นกัน
    • ทำไมบรรดาโอตาคุที่เราเคยเห็นมันมีแต่พวกที่สมหวังในชีวิตทั้งนั้นเลยล่ะ เรียนเก่ง ความสามารถสูงในหลาย ๆ ด้าน แล้วยังมีมนุษยสัมพันธ์ดีอีกต่างหาก แถมก็ใช่ว่าหน้าตาจะน่าเกลียด ที่เราอยากจะบอกก็คือว่า เนี่ย...
      O obnoxious สันดานแย่ ไม่น่าคบ
      T tuacky ซกมก
      A aggravate น่ารำคาญ
      K klutz สมองกลวง
      U ugly อุบาทว์
      มันแรงไปมั้ย
      เราแค่อยากรู้เฉย ๆ ว่าทำไมถึงมองโอตาคุในแง่ร้ายกันจัง เราว่ากลุ่มบุคคลที่กล่าวมานั่นก็เป็นแค่ส่วนน้อยไม่ใช่เหรอ อย่าเอาส่วนน้อยมาตัดสินส่วนรวมสิ เปิดความคิดกันมาลองคุยกันไม่ดีกว่าเหรอ บางทีอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิดก็ได้ โอตาคุอาจจะไม่ได้เลวร้ายอะไร ที่ทำตามอนิเมน่ะ ก็แค่พวกที่ไม่ค่อยได้ใช้วิจารณญาณเท่านั้น โอตาคุส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย อย่าเหมารวมสิ
    • มีคนสองจำพวก พวกพยายาม กับพวกธรรมชาติ คนที่ประเภททำตัวน่าเกลียด เขาอาจจะพยายามบอกคนทั้งโลกให้รับรู้ว่าข้าเป็นโอตาคุ ด้วยเหตผลบางอย่าง
    • ไมพวกคุมาดิ้นแถวนี้เยอะจังว่ะ
    • โอตาคุจริงๆมันก็คือคำด่า เหมือนที่เราไว้ใช้ด่าพวกเกรียนนั่นแหละ

    คำโต้แย้งคำวิจารณ์

    • Otakuสูงกว่าคนทั่วไป1ก้าว Otaku2upสูงกว่า2ก้าว ไอ้เกรียนมันต่ำกว่า10000000000000ก้าว
    • โอตาคุยังดีกว่าเกรียน แต่ไอ้นี่ไร้สาระไปหน่อย จึงน่ารำคาญมากถ้าไม่ใช่พวกเดียวกัน
    • โอตาคุผู้ชาย ยังดีกว่า ติ่งหู เยอะแยะ
    • ที่โอตาคุไม่ชอบเข้าสังคม เพราะ สังคมส่วนใหญ่เเยกเกรียน กับโอตาคุไม่ออก จึงตัดปัญหาโดยการไม่ไปยุ่งกับคนอื่น
    • โอตาคุ=เกรียน=คุณนั้นเเหละคือเกรียน !!
    ทำไมต้องว่าโอตาคุ เราก็เป็นคนนึงที่ยอมรับว่าเป็นโอตาคุและเป็นผู้หญิงด้วย!! คนที่มาหาว่าโอตาคุเกรียนน่ะ คุณน่ะเกรียนกว่า!
    • โอตาคุไม่ใช่เกรียน เพราะมันต่างกันมากๆ ลองสังเกตุดีๆค่ะ โอตาคุ เป็นการที่หลงใหลสิ่งๆที่ เช่น โอตาคุการ์ตูน โอตาคุเครื่องเสีง โอตาคุรถยนต์ กับเกรียนแล้ว เกรียนแทบไม่มีความรู้เรื่องนั้นๆเลย
    • โอตาคุไก่ชนก็มีนะ
    • เคยคิดบ้างไหมว่า ทำไมเขาถึงต้องแยกมาจากสังคม มันต้องมีเหตุผลจริงไหม คุณรู้ไหม ที่พวกเราไม่ชอบให้ใครมาว่าโอตาคุ เพราะเรารักมัน
    ใครๆก็ไม่ชอบให้มาว่าของที่ตัวเองรัก คุณต้องใจเย็น แล้วเปิดรับทุกๆอย่าง แล้วรับในสิ่งที่ดีมา คุณลองคิดว่า คุณน่ะ มีความสุขที่ได้ด่าโอตาคุจริงๆหรอ มีความสุขกับการทำร้ายจิตใจคนได้หรอ  ?
    • โอตาคุยังดีกว่าเกรียนนะครับ เกรียนมันเกิดจาก ทำร้ายจิตใจคนอื่น อิจฉาในสิ่งที่เขามี ใช้อารมณ์มากเกินไป ทำลายในสิ่งที่ตนเกลียด
    แต่โอตาคุ รักในสิ่งที่จะรัก ถึงแม้บางที่มันอาจจะดูทุเรศไปหน่อย คุณเกิดลองเปิดใจคนที่เป็น โอตาคุบ้างรึป่าว ไม่เคยก็เลิกเบียดเบียนกันเถอะนะครับ อย่ามองกันแค่นั่นนะครับ ถ้าคุณมีเพื่อนสนิท แต่เพื่อนของคุณเป็นโอตาคุ แล้วคุณไม่เป็นเพื่อนกับเขาอิกต่อไป เพราะเพียงว่าเขา รักใน โลก 2D เท่านั่นหรอครับ กลัวงั้นหรอครับ กลัวว่าคนอื่นจะดูถูก เหยียดหยาม ? อย่ากลัวเรยครับ ถ้าเป็นสิ่งที่คิดว่าดีแล้ว พวกที่เหยียดหยามคุณ ดูถูก คุณ น่ะ อย่าไปยุ่งเรยครับ นั่นนะ ที่เรียกว่า "เกรียน"

    • ไมสาระจังคับ บาน
    • นี่โอตาคุน่ะสุดยอดนะที่โรงเรียนเราน่ะ่เพื่อนเราที่เป็นโอตาคุน่ะ่เรียนเก่งมากเลยแล้วยังอยู่ห้องต้นๆตลอดด้วยล่ะ *O* (ถึงจะดูเก็บตัวไปหน่อยก็เถอะ-_-)
    • โอตาคุหญิงก็มีนะคะ

    แหล่งข้อมูลอื่น




    และสุดท้ายก็เลยรวมๆภาพมานิดหน่อย