ตอนนี้หากเราสามารถช่วยเหลืออะไรได้ก็ต้องช่วยเหลือกันนะคะ เพราะเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนจริงๆนะ ไม่มีเงินก็ช่วยเขาจัด/ยกของ ถ้ามีปัจจัยก็ซื้อข้าวของบริจาค อย่างเช่น อาหารแห้ง นม น้ำดื่ม ยารักษาโรค(ยาแดง+ยาแก้ปวดแก้ไข้) ไฟฉาย+ถ่าน เสื้อผ้า(ซักแล้ว) ผ้าห่ม เสื้อกันหนาวฯลฯ
ญี่ปุ่นพ้นภัยสึนามิได้เพราะคนในประเทศเขาร่วมมือร่วมใจด้วยจิตสำนึกรักแผ่นดินรักเพื่อนร่วมชาติและสามัคคีร่วมมือร่วมใจจนก้าวพ้นวิกฤตไปพร้อมกัน ข้าน้อยก็เชื่อว่าคนไทยมีจิตสำนึกที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ชาติใดในโลกนี้แน่นอน ชาวต่างชาติที่ได้สัมผัสต่างก็ประทับใจ ไม่ผิดหรอกคะที่คนเรามีความคิดต่างจิตต่างใจกัน แต่อย่าใช้เรื่องการเมือง เรื่องศาสนา มาเป็นข้ออ้างในการจะช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติของเรานะคะ เคยได้เรื่องตลกร้ายของชาวต่างชาติเล่าว่าประเทศไทยอะไรก็ดีเสียอย่างเดียวที่มีคนไทยอาศัยอยู่ เป็นโจ๊กที่เหน็บให้เจ็บปวดใจ ข้าน้อยเชื่อว่าทุกสังคมบนโลกต้องมีคนทั้งดีและเลว แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันขึ้นกับตัวคุณเองมีจิตสำนึกดีพอแค่ไหนต่างหาก ผิดชอบชั่วดีทุกคนรู้อยู่เต็มอก
ก่อนจะ"ตัดสินใจ"ทำอะไรก็ตามขอให้มี"สติ" ไม่มีใครบังคับให้เราต้องเลือกและไม่ผิดหรอกที่คนเราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเสมอ แต่อย่าหลงทางเลือกสิ่งที่ดีบนทางที่ผิดก็แล้วกันนะคะ
ตอนนี้ชีวิตพี่น้องร่วมชาติของเราต้องการความช่วยเหลือรวมถึงสัตว์ต่างๆก็ต้องพลัดพรากเจ้าของเช่นกัน ถ้ามีขนมปัง อาหารเม็ดไปฝากพวกมันบ้างก็ดีนะคะ ขออนุโมทนาสาธุครั้งนี้กับทุกๆคนด้วยคะ เราต้องช่วยกันนะคะ ^^ GT.
20.10.11
อันนี้เพื่อนเอามาให้ดู ดูแล้วก็รู้สึกเหมือนสถานการณ์ตอนนี้
แค่ต้องการความรักและสามัคคีของคนในชาติเท่านั้น
บทเรียนครั้งนี้คงพิสูจน์ได้ดี โดยไม่ต้องมี..กรรมการตัดสิน..
ก่อนจะ"ตัดสินใจ"ทำอะไรก็ตามขอให้มี"สติ" ไม่มีใครบังคับให้เราต้องเลือกและไม่ผิดหรอกที่คนเราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเสมอ แต่อย่าหลงทางเลือกสิ่งที่ดีบนทางที่ผิดก็แล้วกันนะคะ
ตอนนี้ชีวิตพี่น้องร่วมชาติของเราต้องการความช่วยเหลือรวมถึงสัตว์ต่างๆก็ต้องพลัดพรากเจ้าของเช่นกัน ถ้ามีขนมปัง อาหารเม็ดไปฝากพวกมันบ้างก็ดีนะคะ ขออนุโมทนาสาธุครั้งนี้กับทุกๆคนด้วยคะ เราต้องช่วยกันนะคะ ^^ GT.
ขอเม้านิส..บางทีก็รู้สึกแย่กับคนรู้จักบางประเภท..Sheไม่เคยอยากช่วยเหลือใครเลยแต่เวลาSheเดือดร้อนก็อยากได้รับความช่วยเหลือสุดๆ(ประมาณว่าSheโดนมีดบาดแต่แหกปากเหมือนปอดจะหลุดอะไรแบบนั้น แต่คนที่โคม่าจริงๆกลับไม่แหกปากเท่าSheด้วยซ้ำ)และSheไม่ชอบเห็นใครทำดีหรือมีดีเกินหน้าเกินตา Sheเอาแต่ตำหนิคนอื่นตลอดเวลา ถ้ารอบตัวมีคนประเภทนี้คุณมีคนที่รู้จักเป็นแบบนี้คุณจะรู้สึกยังไงกันบ้าง?
ถึงข้าน้อยก็ไม่อยากขัดคอ แต่ก็ไม่อยากเออออ ก็ตอบว่า อืม..อย่างน้อยพวกเขาก็เข้าไปลงมือทำ ก็น่าจะดีกว่าพวกไม่ทำห้าอะไรเลยแล้วเอาแต่อิจฉาเลอะเทอะเนอะ ใครจะคิดยังไงก็แล้วแต่ แค่ไม่อยากส่งเสริมจิตสำนึกติดลบ คนเห็นแก่ตัวก็ไม่ผิดหรอก คนเราล้วนเห็นแก่ตัวแหละมีใครไม่อยากได้ในสิ่งดีๆบ้าง? แต่ถ้าไม่มีการควมคุมจิตใต้สำนึกหรือไม่มีต่อมคุณธรรม(ทุกศาสนาสร้างคุณธรรมให้เป็นคนดีทุกศาสนาคะ)คนๆนั้นคงเลวยิ่งกว่าสัตว์ เพราะถึงแม้ว่าจะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานบางทีมันยังมีต่อมคุณธรรมมากกว่า"คน"ที่เสียชาติเกิดเสียอีก หากคนเรามีจิตสำนึกที่ดี คิดดีทำดี สังคมจะน่าอยู่มากขึ้นจริงมั้ย..แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่คนไทยเราจะคิดได้.. เยอะๆ..เนอะ..
เข้าเรื่องต่อวันนี้แวะมาEditคลิปกับข่าวที่เป็นประโยชน์มาแปะ แก้ไขบางส่วนให้เป็นระเบียบนิดหน่อย พอดีเสริชไปเสริชมาเหลือบเห็นอากู๋(กุเก้อ)มีให้เช็คน้ำท่วมแบบทันสมัยเกาะติดทุกสถานการณ์ด้วยดาวเทียมกันไปเลย ใครอยู่ส่วนไหนของนอกโลกเอ๊ยเมืองนอกก็สามารถเช็คข่าวได้ทันท่วงทีคลิ๊กที่ลิ้งนี้ได้ตลอด24ชั่วโมงคะ ถึงข้าน้อยก็ไม่อยากขัดคอ แต่ก็ไม่อยากเออออ ก็ตอบว่า อืม..อย่างน้อยพวกเขาก็เข้าไปลงมือทำ ก็น่าจะดีกว่าพวกไม่ทำห้าอะไรเลยแล้วเอาแต่อิจฉาเลอะเทอะเนอะ ใครจะคิดยังไงก็แล้วแต่ แค่ไม่อยากส่งเสริมจิตสำนึกติดลบ คนเห็นแก่ตัวก็ไม่ผิดหรอก คนเราล้วนเห็นแก่ตัวแหละมีใครไม่อยากได้ในสิ่งดีๆบ้าง? แต่ถ้าไม่มีการควมคุมจิตใต้สำนึกหรือไม่มีต่อมคุณธรรม(ทุกศาสนาสร้างคุณธรรมให้เป็นคนดีทุกศาสนาคะ)คนๆนั้นคงเลวยิ่งกว่าสัตว์ เพราะถึงแม้ว่าจะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานบางทีมันยังมีต่อมคุณธรรมมากกว่า"คน"ที่เสียชาติเกิดเสียอีก หากคนเรามีจิตสำนึกที่ดี คิดดีทำดี สังคมจะน่าอยู่มากขึ้นจริงมั้ย..แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่คนไทยเราจะคิดได้.. เยอะๆ..เนอะ..
อันนี้เพื่อนเอามาให้ดู ดูแล้วก็รู้สึกเหมือนสถานการณ์ตอนนี้
แค่ต้องการความรักและสามัคคีของคนในชาติเท่านั้น
บทเรียนครั้งนี้คงพิสูจน์ได้ดี โดยไม่ต้องมี..กรรมการตัดสิน..
ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.)
- รับแจ้งความเดือดร้อน เพื่อขอความช่วยเหลือ โทร 1111 กด 5
เบอร์โทรช่วยเหลือของหน่วยงานต่าง ๆ
- หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ช่วยผู้ประสบภัยสาธารณสุข โทร 1669
- สายด่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โทร 1784
- สายด่วนกรมชลประทาน โทร 1460, 0-2669-2560
- สายด่วนกรมทางหลวง โทร 1586
- ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม 1356
- กรมทางหลวงชนบท 1146
- การรถไฟฯ 1690
- บขส. 1490
- ตำรวจทางหลวง 1193
- สอบถามเส้นทางน้ำท่วมได้ 24 ชม.
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1129
- กรมเจ้าท่า รับแจ้งเหตุด่วนทางน้ำ 1199
พื้นที่กรุงเทพมหานคร
- ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ รับแจ้ง และแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โทร 0-2248-5115 ตลอด 24 ชม.
- ศูนย์ กทม. รับเรื่องร้องทุกข์ สายด่วน 1555 ตลอด 24 ชม.
- ศูนย์ข้อมูลกรุงเทพมหานคร สายตรง 0-2224-2961
- ผู้ว่าราชการจังหวัด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร 0-2225-7012 Twitter @bangkokgovernor
- ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (พระนคร) 0-2221-2141 – 69
- ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) 0-2246-0301 , 0-2246-0304
- สายด่วน การไฟฟ้านครหลวง 1130
- การประปานครหลวง 1125
- สภากาชาดไทย 1664
พื้นที่กรุงเทพมหานคร
- แจ้งเหตุเดือดร้อน สถานีไทยพีบีเอส 0-2790-1111
- สถานีวิทยุ จ.ส.100 โทร.1137
- เครือข่ายร่วมด้วยช่วยกัน โทร.1677
คลิปนี้เป็นคลิปที่ประทับใจโดยส่วนตัวคะ คนที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่าควรไปที่ไหนบ้าง คนอพยบตกค้างมากน้อยแค่ไหน แล้วเมื่อเอาข้าวของลงไปก็ไปรวมที่ๆนึง สุดท้ายก็ไม่ทั่วถึงอยู่ดีเพราะมีปัญหาพวกที่วนเวียนมารับของหลายรอบหรือพวกที่เป็นมิจฉาชีพ คนที่ซ้ำเติมผู้ที่เดือดร้อนนี่..ยอดแย่จริงๆคะ
ขออนุโมทนากับพี่ๆชาวอาสากู้ภัยทำให้รู้ว่าคนที่อยู่ข้างในลึกๆเค้าออกมาไม่ได้มีอีกเยอะ สาธุๆๆ
ฟังพี่ๆนักข่าวพูดบ้าง
Delta Works โครงการรับภัยน้ำท่วมเนเธอร์แลนด์
เนเธอร์แลนด์ เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมสูง
เพราะพื้นที่หนึ่งในสี่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล
แต่ได้แก้ปัญหาด้วยการสร้างเขื่อน รวมถึงพนังกั้นน้ำ
Global VoiceNews VoiceTV 18-10-2011
โครงการป้องกันน้ำท่วมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
เมืองเวนิส คือเมืองท่องเที่ยวเก่าแก่ของประเทศอิตาลี
ที่ต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมทุกปี เนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูง
โดยรัฐบาลอิตาลีได้พยายามแก้ไขปัญหานี้
จึงริเริ่มโครงการก่อสร้างที่มีชื่อว่า โมเสส โปรเจ็ค
ซึ่งโครงการนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นโครงการป้องกัน
น้ำท่วมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
Global VoiceNews VoiceTV 19-10-2011
เปิดประตูน้ำป้องกันพื้นที่กทม ชั้นใน
กรมชลประทาน เปิดประตูระบายน้ำ 5 แห่ง
ระบายน้ำลงสู่คลองรังสิต ให้ไหลออก
แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำนครนายก
ป้องกันพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานคร
VoiceNews VoiceTV 19-10-2011
น้ำท่วม สร้างส้วม สร้างสรรค์
น้ำท่วม = ความเดือดร้อนและข้อจำกัด
สร้างส้วม = การแก้ไขปัญหา จัดการให้พ้นข้อจำกัด
สร้างสรรค์ = การบูรณาการเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์
มาผสานกับงานออกแบบ ทั้งยังผลิตจากวัสดุที่เหลือใช้
และสร้างระบบป้องกันมลภาวะทางสิ่งแวดล้อม
น้ำท่วมแก้ไขได้ด้วยน้ำใจและไอเดีย..
ตัวอย่างสุดยอดทางความคิด ที่แสดง
ให้เห็นถึงความสำคัญของ "ความสร้างสรรค์"
ในการช่วยจัดการตอบสนองความต้องการ
และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
ผู้สนใจสามารถอาสาเวลาและแรงกายของคุณ
ร่วมกันกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และแบ่งปันน้ำใจ
จากภัยน้ำท่วม โดยการร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการสุขาลอยน้ำ
เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดประยุกต์ใช้ช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยน้ำท่วม และเตรียมรับมือจัดการกับน้ำในปีต่อไป
ณ องค์การเภสัชกรรม ถ. พระรามหก กรุงเทพฯ
ในวันเสาร์และอาทิตย์ 22 -- 23 ตุลาคม 2554 นี้
Culture VoiceNews VoiceTV 19-10-2011
คนไทยไม่ทิ้งช้างไทย
จากสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.พระนครศรีอยุธยาที่กินเวลามานานร่วม 1 เดือน นอกจากประชาชนจะได้รับความเดือดแล้ว ช้างซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาต้องเผชิญชะตากรรมไม่มีอาหารและที่อยู่แต่วันนี้ธารน้ำใจของคนไทยก็หลังไหลไปโอบอุ้มชีวิตของช้าง ของวังช้างอยุธยาแลเพนียด กว่า 100 เชือก
VoiceNews VoiceTV 19-10-2011
สถานการณ์น้ำท่วมกทมและรอบนอก 19 ต.ค.
ศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร บันทึกคลิปวีดีโอวิเคราะห์สถานการณ์น้ำท่วมที่จะเกิดขึ้นกับกทม.และเขตรอบนอก ตอนที่ 3 วันที่ 19 ต.ค. 2554
แนวทางป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ
คลิปวีดีโอเสนอแนวทางวิธีป้องกัน/การจัดการน้ำท่วมและการพังทลายของเขื่อน/คันกั้นน้ำในพื้นที่กทม. อธิบายโดยคุณอภิชาติ สุทธิศิลธรรม
แนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพชั้นใน
แถลงการณ์ฉบับที่ 1 โดยศูนย์ข้อมูลเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย - Thaiflood.com
แถลงการณ์นี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ชาวกรุงเทพเตรียมรับมือสถานการณ์ในอีก 24 ชั่วโมง (ช่วยบอกต่อให้ได้มากที่สุด)
1. เฝ้าระวังระดับน้ำที่ปากเกร็ด หากยกตัวขึ้นสูงผิดปกติ ให้เร่งเตือนชุมชนริมฝั่งเจ้าพระยาตลอดสายลงมา
2. ชุมชนรังสิต คลอง 2-6 ทั้งนอกและในคันกั้นน้ำ ให้รีบยกของขึ้นชั้นสองทันที เฝ้าระวังจุดนี้เป็นพิเศษ
3. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลรีบเปิดประตูระบายน้ำทุกคลองรังสิต ทำตอนนี้ยังไม่สาย ชุมชนริมคลองจะได้รับผลกระทบบ้าง
4. ขอให้รัฐบาลเปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่ บอกความจริงทั้งหมดกับประชาชนเพื่อเฉลี่ยทุกข์สุข เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันได้
5. รอฟังรายงานสถานการณ์ฉบับเต็มจากเครือข่ายภาคประชาชนได้ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส คืนนี้ เวลาประมาณ 22.00 น.
ประกาศ ณ วันที่ 19 ต.ค. 2554 เวลา 14.40 น.
แถลงการณ์นี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ชาวกรุงเทพเตรียมรับมือสถานการณ์ในอีก 24 ชั่วโมง (ช่วยบอกต่อให้ได้มากที่สุด)
1. เฝ้าระวังระดับน้ำที่ปากเกร็ด หากยกตัวขึ้นสูงผิดปกติ ให้เร่งเตือนชุมชนริมฝั่งเจ้าพระยาตลอดสายลงมา
2. ชุมชนรังสิต คลอง 2-6 ทั้งนอกและในคันกั้นน้ำ ให้รีบยกของขึ้นชั้นสองทันที เฝ้าระวังจุดนี้เป็นพิเศษ
3. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลรีบเปิดประตูระบายน้ำทุกคลองรังสิต ทำตอนนี้ยังไม่สาย ชุมชนริมคลองจะได้รับผลกระทบบ้าง
4. ขอให้รัฐบาลเปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่ บอกความจริงทั้งหมดกับประชาชนเพื่อเฉลี่ยทุกข์สุข เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันได้
5. รอฟังรายงานสถานการณ์ฉบับเต็มจากเครือข่ายภาคประชาชนได้ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส คืนนี้ เวลาประมาณ 22.00 น.
ประกาศ ณ วันที่ 19 ต.ค. 2554 เวลา 14.40 น.
แถลงการณ์ฉบับที่ 2 โดยศูนย์ข้อมูลเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย - Thaiflood.com
แถลงการณ์นี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ชาวกรุงเทพเตรียมรับมือสถานการณ์ในอีก 24 ชั่วโมง (ช่วยบอกต่อให้ได้มากที่สุด)
1. ผู้ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้อื่น ให้เร่งทำภารกิจแรกคือ ดูแลครอบครัวให้ปลอดภัย ท่านจะมีแรงกายแรงใจไปช่วยคนได้อีกมาก
2. ขอให้ทุกภาคส่วนลดภารกิจการแจกถุงยังชีพตามบ้าน เพิ่มภารกิจการสนับสนุนศูนย์พักพิงให้มีศักยภาพ รีบพาคนออกมาให้เร็ว
3. เตรียมพลังงานสำรอง เช่น แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือชาร์จให้เต็ม ไฟฉายฉุกเฉิน ไฟแช็คจุดไฟ สำรองน้ำมันในถังที่ปลอดภัย
4. เร่งสำรองน้ำสะอาดในภาชนะเท่าที่หาได้ เลี่ยงการบริโภคน้ำที่สงสัยว่าจะปนเปื้อนสารเคมี จนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม
5. ขอให้รัฐบาลประกาศแผนการอพยพที่มีข้อมูลละเอียดชัดเจน ต้องร่วมบูรณาการกับภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทุกแห่ง
ประกาศ ณ วันที่ 20 ต.ค. 2554 เวลา 16.00 น.
แถลงการณ์นี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ชาวกรุงเทพเตรียมรับมือสถานการณ์ในอีก 24 ชั่วโมง (ช่วยบอกต่อให้ได้มากที่สุด)
1. ผู้ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้อื่น ให้เร่งทำภารกิจแรกคือ ดูแลครอบครัวให้ปลอดภัย ท่านจะมีแรงกายแรงใจไปช่วยคนได้อีกมาก
2. ขอให้ทุกภาคส่วนลดภารกิจการแจกถุงยังชีพตามบ้าน เพิ่มภารกิจการสนับสนุนศูนย์พักพิงให้มีศักยภาพ รีบพาคนออกมาให้เร็ว
3. เตรียมพลังงานสำรอง เช่น แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือชาร์จให้เต็ม ไฟฉายฉุกเฉิน ไฟแช็คจุดไฟ สำรองน้ำมันในถังที่ปลอดภัย
4. เร่งสำรองน้ำสะอาดในภาชนะเท่าที่หาได้ เลี่ยงการบริโภคน้ำที่สงสัยว่าจะปนเปื้อนสารเคมี จนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม
5. ขอให้รัฐบาลประกาศแผนการอพยพที่มีข้อมูลละเอียดชัดเจน ต้องร่วมบูรณาการกับภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทุกแห่ง
ประกาศ ณ วันที่ 20 ต.ค. 2554 เวลา 16.00 น.
ส่วนข่าวนี้ รู้สึกคุณต้นเป็นตัวแทนของคนที่กำลังต่อสู้กับปัญหาหนักหนาครั้งนี้คนหนึ่ง ขอให้เสียงของคุณต้นดังไปถึงใจใครต่อใครอีกหลายล้านคน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนเช่นกันนะคะ ชีวิตไม่สิ้นเราต้องสู้กันต่อไป (แนบด้วยเนื้อข่าวในมติชนเจอตอนเช้าวันนี้ก็เลยอยากแชร์ให้ทุกคนได้อ่านจ้ะ)
เบื้องหลัง 1คืนที่โรงงาน "อิชิตัน" ของ "กัปตัน"
และ "คำขอร้อง" จาก "ตัน ภาสกรนที"
"ผมเพิ่งโทรไปบอกลูกน้องว่าเรือ 100 ลำที่จะเอาไปบริจาค ให้เก็บไว้ลำหนึ่ง"
"ตัน ภาสกรนที" เล่าให้ฟังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ตอนแรก ลูกน้องคิดว่า "ตัน" จะเล่นเคล็ดตัวเลข
ลดจำนวนเรือจาก 100 เหลือ 99
เมื่อลูกน้องถามว่าอีกลำหนึ่งจะเอาไปไหน
คำตอบก็คือ "เอาไว้ที่บ้าน"
"ตัน" บอกว่ามัวแต่ช่วยคนอื่น แต่ลืมตัวเอง
มหันตภัยครั้งนี้ใหญ่หลวงกว่าที่ใครจะคาดคิด
"จุดต่ำสุด" หรือ "จุดที่แย่ที่สุด" ที่คนอยุธยาและนครสวรรค์เคยคาดการณ์ไว้ วันนี้ทุกคนรู้แล้วว่า "ความจริง" ครั้งนี้เลวร้ายกว่าที่เขาคิดไว้หลายเท่าตัวนัก
ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา "ตัน" ค่อนข้าง "อิน" กับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ตอนแรก เขาคิดว่าน้ำท่วมครั้งนี้จะบริจาคเงินช่วยเหลืออย่างเดียว
เพราะช่วงนี้ "ตัน" เริ่มลุยธุรกิจชาเขียว "อิชิตัน" อย่างเต็มตัว
ไม่มีเวลาว่างเหมือนตอนที่ช่วยน้ำท่วมครั้งก่อน
เขาขออนุญาตคู่ชีวิต "อิง" สุนิสา ภาสกรนที ว่าจะบริจาคเงินก้อนใหญ่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม40 ล้านบาท
แต่หลังจากเห็นข่าวอุทกภัยครั้งใหญ่ "ตัน" ก็ทนไม่ได้ เขาระดมมิตรรักแฟนเพลงจาก "แฟนเพจ" ของเขามาช่วยบรรจุของลงถุงยังชีพ เพื่อนำไปบริจาคให้กับผู้ที่เดือดร้อน
ครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ "อารีน่า10"
มีคนไปร่วมประมาณ 2,000 คน
จากนั้น "ตัน" ก็ลุยซื้อเสื้อชูชีพ 10,000 ตัว และเรือท้องแบนขนาด 15-20 ที่นั่งจำนวน 100 ลำ
ส้วมไฟเบอร์ 12 หลัง ส้วมกระดาษอีก 100 ชุดและวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา "ตัน" ก็ขอแรง "แฟนเพจ" เป็นครั้งที่ 2 เพื่อบรรจุของลงในถุงยังชีพจำนวน 20,000 ชุด
ครั้งนี้มีคนไปร่วม "จิตอาสา" ถึง 7,000 คน
วันอังคารที่ 11 ตุลาคม "ตัน" มีกำหนดการต้องไปมอบของให้กับผู้ว่าฯลพบุรี
แต่เขาเปลี่ยนใจ เมื่อทราบข่าวจากลูกน้องว่าโรงงาน "อิชิตัน" มูลค่า 3,500 ล้านบาทของเขากำลังอยู่ช่วงวิกฤต
"ตัน" ตัดสินใจเข้าไปโรงงาน "อิชิตัน"
เพื่อสู้กับ”น้ำ”กับลูกน้อง..................
ตั้งแต่เริ่มบริษัท ไม่ตัน และเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งเครื่องดื่มดับเบิ้ลดริ้งก์ และชาเขียวอิชิตัน
"ตัน" ใช้ระบบการจ้างผลิตเพราะโรงงานใหม่ของเขาอยู่ระหว่างการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรและด้วยสไตล์การตัดสินใจอย่างรวดเร็วของ "ตัน" โรงงานมูลค่า 3,500 ล้านบาทใช้เวลาก่อสร้างไม่ถึง 1ปี เดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ โรงงานของเขาจะเดินเครื่องอย่างเต็มที่และจะเป็นโรงงานชาเขียวที่มีกำลังการผลิตสูงสุดในเมืองไทย
ทันทีที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่และน้ำเริ่มตีโอบนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ
"ตัน" ก่อกำแพงสูงกว่า 3 เมตร รอบโรงงาน
ตอนแรกเขาเชื่อมั่นว่ากำแพงดังกล่าวจะสู้กับ "น้ำ" ได้
แต่เมื่อโรงงานฮอนด้าถูกน้ำทะลักเข้าร่วม
ความมั่นใจของ "ตัน" เริ่มลดลง
แต่ยังเชื่อว่า "ปาฎิหาริย์" น่าจะมีจริง
คืนวันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม เขาได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องว่า "กำแพง" ที่กั้นไว้เริ่มจะสู้ไม่ไหว
อาหารและน้ำเริ่มร่อยหรอ และน้ำมันที่ใช้กับเครื่องปั่นไฟเริ่มไม่พอเพียง
ในขณะที่ลูกน้องเริ่มหมดแรงลงเรื่อยๆ "ตัน" ตัดสินใจเข้าไปโรงงาน เพื่อให้กำลังใจและสู้ร่วมกับ "ลูกน้อง"
ตอนเช้าที่คุยกัน "ตัน" ยังมีเสียงที่สดใส
เขายังคิดแก้ปัญหาเรื่องการขนน้ำมันเข้าไปโรงงานและวางแผนจะไปนอนที่โรงงานร่วมกับลูกน้อง
"ผมเตรียมชุดนอนไว้แล้ว"
แต่พอตอนบ่าย เมื่อโทรศัพท์ไปคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
เสียงของ "ตัน" เริ่มเปลี่ยนไป
เขาบอกว่าคงต้องยอมรับความเป็นจริงและวางแผนอพยพลูกน้องออกจากโรงงานให้ปลอดภัยที่สุด
"ผมจะเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากโรงงาน กับตันต้องสละเรือเป็นคนสุดท้าย"
ผ่านไปจนถึงช่วงเย็น ในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วง "เจาะข่าวเด่น" "สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา" บุกเข้าไปในโรงงาน "อิชิตัน" เพื่อสัมภาษณ์ "ตัน" ไม่มีใครเห็นภาพ เพราะรถถ่ายทอดสดไม่สามารถเข้าไปได้ มีแต่เสียงของ "ตัน" และ "สรยุทธ์"
ช่วงต้นเขายังคุมอารมณ์อยู่ "ตัน" ยังบอกว่าคนที่เดือดร้อนกว่าเขายังมีอีกมากมาย เขายังมีกำลังที่จะสู้ต่อได้
"แต่วันนี้คงจบแล้วสำหรับภารกิจกู้โรงงาน พรุ่งนี้ก็กลับไปทำมาหากินกันต่อ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ เราต้องมีกำลังใจ"
เมื่อ "สรยุทธ์" รู้ว่า "ตัน" จะนอนค้างที่นี่ เพื่อส่งพนักงานคนสุดท้ายออกไปให้หมด และเหลือคนอยู่เฝ้าโรงงาน 5 คน เขาเสนอทางเลือกว่าเขาจะช่วยนำพนักงานออกให้หมดภายในคืนนี้ แล้ว"ตัน" ออกไปพร้อมกันกับเขา
แต่ "ตัน" ปฏิเสธ บอกว่าที่นี่ยังมีเครื่องปั่นไฟ มีอาหาร
"ผมขออยู่ที่นี่สักคืนหนึ่ง" เสียงของ "ตัน" เริ่มสั่นเครือและขาดหายเป็นช่วงๆ
"....อยู่ให้สมกับที่ลงทุนไป"
ในจอโทรทัศน์มีแต่ความเงียบประมาณ 10 วินาที
ไม่มีเสียงของ "ตัน" หรือ "สรยุทธ์"
เพราะ "ตัน" ร้องไห้.................
ภาพของ "ตัน" น้ำตาคลอ แพร่ภาพอีกครั้งในช่วง "เรื่องเล่าเช้านี้"
พร้อมกับ "แฟนเพจ" เข้ามาให้กำลังใจ 6,000 กว่าคน
3 โมงเย็นของวันพุธที่ 12 ตุลาคม "ตัน" เพิ่งออกจากโรงงาน
"คุณเชื่อไหม ตลอดระยะทาง 14 กิโลเมตรจากโรงงาน มันมีแต่น้ำ ทุกโรงงานมีแต่น้ำท่วมกับน้ำท่วมมาก"
เขาเล่าว่าระหว่างที่นั่งรถจะมีคนงานโรงงานต่างๆขอโดยสารออกมาด้วย
แต่ละคนอยู่ในสภาพที่ทั้งหมดแรง และหมดกำลังใจ
"ผมยังมีแรง มีเงินที่จะสู้ต่อ แต่บางคนบ้านก็ถูกน้ำท่วม โรงงานก็ท่วม บ้านก็ไม่มีอยู่ งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี น่าสงสารมาก"
จากประสบการณ์ครั้งนี้ "ตัน" อยากฝากไปถึงคนไทยทุกคนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่ใช่ปัญหาของคนใดคน หนึ่ง ไม่ใช่ของรัฐบาล แต่เป็นของคนไทยทุกคน
"ถ้าเรียกร้องได้ ผมอยากเรียกร้องให้คนไทยที่ยังมีแรงอยู่ให้ออกมาช่วยกันให้มากที่สุด ใครมีเงินช่วยเงิน ช่วยเรื่องสิ่งของ ใครมีแรงช่วยออกแรง ปัญหาวันนี้มันหนักหนาสาหัสจริงๆ"
"ผมขอร้อง..."
ตอนแรก ลูกน้องคิดว่า "ตัน" จะเล่นเคล็ดตัวเลข
ลดจำนวนเรือจาก 100 เหลือ 99
เมื่อลูกน้องถามว่าอีกลำหนึ่งจะเอาไปไหน
คำตอบก็คือ "เอาไว้ที่บ้าน"
"ตัน" บอกว่ามัวแต่ช่วยคนอื่น แต่ลืมตัวเอง
มหันตภัยครั้งนี้ใหญ่หลวงกว่าที่ใครจะคาดคิด
"จุดต่ำสุด" หรือ "จุดที่แย่ที่สุด" ที่คนอยุธยาและนครสวรรค์เคยคาดการณ์ไว้ วันนี้ทุกคนรู้แล้วว่า "ความจริง" ครั้งนี้เลวร้ายกว่าที่เขาคิดไว้หลายเท่าตัวนัก
ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา "ตัน" ค่อนข้าง "อิน" กับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ตอนแรก เขาคิดว่าน้ำท่วมครั้งนี้จะบริจาคเงินช่วยเหลืออย่างเดียว
เพราะช่วงนี้ "ตัน" เริ่มลุยธุรกิจชาเขียว "อิชิตัน" อย่างเต็มตัว
ไม่มีเวลาว่างเหมือนตอนที่ช่วยน้ำท่วมครั้งก่อน
เขาขออนุญาตคู่ชีวิต "อิง" สุนิสา ภาสกรนที ว่าจะบริจาคเงินก้อนใหญ่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม40 ล้านบาท
แต่หลังจากเห็นข่าวอุทกภัยครั้งใหญ่ "ตัน" ก็ทนไม่ได้ เขาระดมมิตรรักแฟนเพลงจาก "แฟนเพจ" ของเขามาช่วยบรรจุของลงถุงยังชีพ เพื่อนำไปบริจาคให้กับผู้ที่เดือดร้อน
ครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ "อารีน่า10"
มีคนไปร่วมประมาณ 2,000 คน
จากนั้น "ตัน" ก็ลุยซื้อเสื้อชูชีพ 10,000 ตัว และเรือท้องแบนขนาด 15-20 ที่นั่งจำนวน 100 ลำ
ส้วมไฟเบอร์ 12 หลัง ส้วมกระดาษอีก 100 ชุดและวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา "ตัน" ก็ขอแรง "แฟนเพจ" เป็นครั้งที่ 2 เพื่อบรรจุของลงในถุงยังชีพจำนวน 20,000 ชุด
ครั้งนี้มีคนไปร่วม "จิตอาสา" ถึง 7,000 คน
วันอังคารที่ 11 ตุลาคม "ตัน" มีกำหนดการต้องไปมอบของให้กับผู้ว่าฯลพบุรี
แต่เขาเปลี่ยนใจ เมื่อทราบข่าวจากลูกน้องว่าโรงงาน "อิชิตัน" มูลค่า 3,500 ล้านบาทของเขากำลังอยู่ช่วงวิกฤต
"ตัน" ตัดสินใจเข้าไปโรงงาน "อิชิตัน"
เพื่อสู้กับ”น้ำ”กับลูกน้อง..................
ตั้งแต่เริ่มบริษัท ไม่ตัน และเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งเครื่องดื่มดับเบิ้ลดริ้งก์ และชาเขียวอิชิตัน
"ตัน" ใช้ระบบการจ้างผลิตเพราะโรงงานใหม่ของเขาอยู่ระหว่างการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรและด้วยสไตล์การตัดสินใจอย่างรวดเร็วของ "ตัน" โรงงานมูลค่า 3,500 ล้านบาทใช้เวลาก่อสร้างไม่ถึง 1ปี เดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ โรงงานของเขาจะเดินเครื่องอย่างเต็มที่และจะเป็นโรงงานชาเขียวที่มีกำลังการผลิตสูงสุดในเมืองไทย
ทันทีที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่และน้ำเริ่มตีโอบนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ
"ตัน" ก่อกำแพงสูงกว่า 3 เมตร รอบโรงงาน
ตอนแรกเขาเชื่อมั่นว่ากำแพงดังกล่าวจะสู้กับ "น้ำ" ได้
แต่เมื่อโรงงานฮอนด้าถูกน้ำทะลักเข้าร่วม
ความมั่นใจของ "ตัน" เริ่มลดลง
แต่ยังเชื่อว่า "ปาฎิหาริย์" น่าจะมีจริง
คืนวันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม เขาได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องว่า "กำแพง" ที่กั้นไว้เริ่มจะสู้ไม่ไหว
อาหารและน้ำเริ่มร่อยหรอ และน้ำมันที่ใช้กับเครื่องปั่นไฟเริ่มไม่พอเพียง
ในขณะที่ลูกน้องเริ่มหมดแรงลงเรื่อยๆ "ตัน" ตัดสินใจเข้าไปโรงงาน เพื่อให้กำลังใจและสู้ร่วมกับ "ลูกน้อง"
ตอนเช้าที่คุยกัน "ตัน" ยังมีเสียงที่สดใส
เขายังคิดแก้ปัญหาเรื่องการขนน้ำมันเข้าไปโรงงานและวางแผนจะไปนอนที่โรงงานร่วมกับลูกน้อง
"ผมเตรียมชุดนอนไว้แล้ว"
แต่พอตอนบ่าย เมื่อโทรศัพท์ไปคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
เสียงของ "ตัน" เริ่มเปลี่ยนไป
เขาบอกว่าคงต้องยอมรับความเป็นจริงและวางแผนอพยพลูกน้องออกจากโรงงานให้ปลอดภัยที่สุด
"ผมจะเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากโรงงาน กับตันต้องสละเรือเป็นคนสุดท้าย"
ผ่านไปจนถึงช่วงเย็น ในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วง "เจาะข่าวเด่น" "สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา" บุกเข้าไปในโรงงาน "อิชิตัน" เพื่อสัมภาษณ์ "ตัน" ไม่มีใครเห็นภาพ เพราะรถถ่ายทอดสดไม่สามารถเข้าไปได้ มีแต่เสียงของ "ตัน" และ "สรยุทธ์"
ช่วงต้นเขายังคุมอารมณ์อยู่ "ตัน" ยังบอกว่าคนที่เดือดร้อนกว่าเขายังมีอีกมากมาย เขายังมีกำลังที่จะสู้ต่อได้
"แต่วันนี้คงจบแล้วสำหรับภารกิจกู้โรงงาน พรุ่งนี้ก็กลับไปทำมาหากินกันต่อ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ เราต้องมีกำลังใจ"
เมื่อ "สรยุทธ์" รู้ว่า "ตัน" จะนอนค้างที่นี่ เพื่อส่งพนักงานคนสุดท้ายออกไปให้หมด และเหลือคนอยู่เฝ้าโรงงาน 5 คน เขาเสนอทางเลือกว่าเขาจะช่วยนำพนักงานออกให้หมดภายในคืนนี้ แล้ว"ตัน" ออกไปพร้อมกันกับเขา
แต่ "ตัน" ปฏิเสธ บอกว่าที่นี่ยังมีเครื่องปั่นไฟ มีอาหาร
"ผมขออยู่ที่นี่สักคืนหนึ่ง" เสียงของ "ตัน" เริ่มสั่นเครือและขาดหายเป็นช่วงๆ
"....อยู่ให้สมกับที่ลงทุนไป"
ในจอโทรทัศน์มีแต่ความเงียบประมาณ 10 วินาที
ไม่มีเสียงของ "ตัน" หรือ "สรยุทธ์"
เพราะ "ตัน" ร้องไห้.................
ภาพของ "ตัน" น้ำตาคลอ แพร่ภาพอีกครั้งในช่วง "เรื่องเล่าเช้านี้"
พร้อมกับ "แฟนเพจ" เข้ามาให้กำลังใจ 6,000 กว่าคน
3 โมงเย็นของวันพุธที่ 12 ตุลาคม "ตัน" เพิ่งออกจากโรงงาน
"คุณเชื่อไหม ตลอดระยะทาง 14 กิโลเมตรจากโรงงาน มันมีแต่น้ำ ทุกโรงงานมีแต่น้ำท่วมกับน้ำท่วมมาก"
เขาเล่าว่าระหว่างที่นั่งรถจะมีคนงานโรงงานต่างๆขอโดยสารออกมาด้วย
แต่ละคนอยู่ในสภาพที่ทั้งหมดแรง และหมดกำลังใจ
"ผมยังมีแรง มีเงินที่จะสู้ต่อ แต่บางคนบ้านก็ถูกน้ำท่วม โรงงานก็ท่วม บ้านก็ไม่มีอยู่ งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี น่าสงสารมาก"
จากประสบการณ์ครั้งนี้ "ตัน" อยากฝากไปถึงคนไทยทุกคนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่ใช่ปัญหาของคนใดคน หนึ่ง ไม่ใช่ของรัฐบาล แต่เป็นของคนไทยทุกคน
"ถ้าเรียกร้องได้ ผมอยากเรียกร้องให้คนไทยที่ยังมีแรงอยู่ให้ออกมาช่วยกันให้มากที่สุด ใครมีเงินช่วยเงิน ช่วยเรื่องสิ่งของ ใครมีแรงช่วยออกแรง ปัญหาวันนี้มันหนักหนาสาหัสจริงๆ"
"ผมขอร้อง..."
ข่าวนี้ก็สำคัญคะเพราะน้ำท่วมครั้งนี้มีคนโดนไฟดูดเสียชีวิต
เคยฟังข่าวที่พี่ๆมูลนิธิเข้าไปช่วยเหลือคนในพื้นที่เลยเอาสิ่งที่เราควรรู้มาฝากทุกคนคะ
เคยฟังข่าวที่พี่ๆมูลนิธิเข้าไปช่วยเหลือคนในพื้นที่เลยเอาสิ่งที่เราควรรู้มาฝากทุกคนคะ
ข้อแนะนำการใช้ไฟฟ้า หากเกิดน้ำท่วม
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแนะนำการใช้ไฟฟ้ากรณีเกิดน้ำท่วมหรือน้ำท่วมขัง เพื่อความปลอดภัยในชีวิต
Source : www.facebook.com การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
Source : www.facebook.com การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
คู่มือน้ำท่วม ฉบับภาพการ์ตูน
พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฟังทางนี้.... ประกาศ ประกาศ น้ำจ่อทะลัก อย่าได้วิตก!? ...มาเตรียมตัวรับมือน้ำท่วมกันดีกว่าจ้า เพราะ ณ เวลานี้แทบจะไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า มวลน้ำมหาศาลจะไหลมาเยือนบ้านของเราหรือไม่ ดังนั้น การเตรียมการรับมือจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด และวันนี้เราขอนำเสนอ คู่มือน้ำท่วม ฉบับภาพการ์ตูน เรียบเรียง โดย สำนักพิมพ์ ธิงค์ บียอนด์ บุ๊คส์ วาดโดย คุณ Monman
สำหรับ คู่มือน้ำท่วม ฉบับภาพการ์ตูนนี้ เนื้อหาประกอบไปด้วย การเตรียมตัวเมื่อน้ำท่วมเริ่มใกล้เข้ามา กินอยู่อย่างไรเมื่อน้ำท่วม เดินทางและขับรถช่วงน้ำท่วมอย่างไร ความสุขในภาวะน้ำท่วม แฟชั่นช่วงน้ำท่วม ฯลฯ ...ทั้งหมดนี้ จะทำให้เพื่อน ๆ รับมือน้ำท่วมได้ไม่ยากเลยล่ะ ว่าแล้วไปดูกันเลย..
ดาวน์โหลดลิงค์แบบเป็น E-BOOK ชัดแจ๋วจ้า
(ใน Ebook จะไม่มีรูปอุดท่อที่เพิ่มมาหลังหน้า 9 นะคะ เพราะเพิ่งเพิ่มเข้ามา สำนักพิมพ์จัดหน้าไม่ทันค่ะ)
http://www.techxcite.com/eBook/E-Book.zip
ข้อแนะนำเมื่อถูกปลิงเกาะ
เพื่อนๆที่คิดจะถมที่หลังน้ำท่วมลองฟังคลิปนี้ก่อนคะ
เทคนิคการขับรถในช่วงน้ำท่วม
พกยา หนีน้ำท่วม
ป้องกันโรคระบาดช่วงน้ำท่วม
รับมือโรคที่มากับน้ำท่วม
วิธีป้องกันน้ำท่วมบ้าน
ทีมงานของเวิร์คพอยท์ นำทีมดาราและผู้สื่อข่าวเดินทางมาบริจาคของ ต.บางระกำ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ มีรถโฟร์วีลของทีมงานเวิร์คพอยท์ ที่มีทีมงานพีอาร์ ,โน้ตเชิญยิ้ม, หยอง ลูกหยี, บ๊อบ-บดินทร์ และริว จิตสัมผัส เกิดต้านกระแสน้ำไม่ไหวพัดไปตามความแรงของน้ำ ทำเอาคนที่อยู่ในรถต้องกระโดดหนีลงมาจากรถเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ไมมีใครได้รับบาดเจ็บหรืออันตราย
วิธีวางกระสอบทราย
วิธีป้องกันน้ำเข้าบ้าน
หลากวิธีป้องกันน้ำท่วมเข้าบ้านอย่างได้ผล
Thanks: กระปุก+คุณอนันต์ แก้วร่วมวงศ์, คุณ ทองกาญจนา, คุณสะใภ้อินเตอร์
น้ำทะลัก! คันกั้นน้ำแตก! ตลิ่งพัง! น้ำจ่อท่วม ...เวลานี้คงจะต้องติดตามข่าวสารอุทกภัยกันนาทีต่อนาที เพราะสถานการณ์น้ำดูจะเลวร้ายขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับใคร ที่บ้านอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม มวลน้ำยังมาไม่ถึง แต่ส่อเค้าหรือเริ่มมีน้ำส่งสัญญาณมาบ้างแล้วนั้น คงจะนิ่งนอนใจไม่ได้อีกต่อไป เพราะถ้าช้า...ไม่แน่ว่า บ้านของเราอาจจมน้ำภายในพริบตา!!!
สิ่งที่ต้องทำในเวลานี้สำหรับผู้คนในพื้นที่เสี่ยงภัย นอกจากการเตรียมอาหาร และเก็บข้าวของเตรียมพร้อมอพยพทุกเมื่อแล้ว หากยังพอมีเวลาเราสามารถป้องกันน้ำท่วมบ้านได้ ซึ่งวันนี้เรามีวิธีป้องกันไม่ให้น้ำท่วมบ้านอย่างได้ผล จากคุณ ทองกาญจนา ผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์น้ำท่วมบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ และอีกแนวคิดดี ๆ ในการป้องกันน้ำท่วมบ้านโดยไม่ใช้กระสอบทรายจาก คุณอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ มาบอกต่อ ... นอกจากนี้ยังมีวิธีดี ๆ และได้ผลของคุณสะใภ้อินเตอร์ ที่ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมมาตลอด 4 ปี แต่ปีนี้มีวิธีป้องกัน และน้ำไม่ท่วมเข้าบ้านมาฝากกันจ้า
น้ำทะลัก! คันกั้นน้ำแตก! ตลิ่งพัง! น้ำจ่อท่วม ...เวลานี้คงจะต้องติดตามข่าวสารอุทกภัยกันนาทีต่อนาที เพราะสถานการณ์น้ำดูจะเลวร้ายขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับใคร ที่บ้านอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม มวลน้ำยังมาไม่ถึง แต่ส่อเค้าหรือเริ่มมีน้ำส่งสัญญาณมาบ้างแล้วนั้น คงจะนิ่งนอนใจไม่ได้อีกต่อไป เพราะถ้าช้า...ไม่แน่ว่า บ้านของเราอาจจมน้ำภายในพริบตา!!!
สิ่งที่ต้องทำในเวลานี้สำหรับผู้คนในพื้นที่เสี่ยงภัย นอกจากการเตรียมอาหาร และเก็บข้าวของเตรียมพร้อมอพยพทุกเมื่อแล้ว หากยังพอมีเวลาเราสามารถป้องกันน้ำท่วมบ้านได้ ซึ่งวันนี้เรามีวิธีป้องกันไม่ให้น้ำท่วมบ้านอย่างได้ผล จากคุณ ทองกาญจนา ผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์น้ำท่วมบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ และอีกแนวคิดดี ๆ ในการป้องกันน้ำท่วมบ้านโดยไม่ใช้กระสอบทรายจาก คุณอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ มาบอกต่อ ... นอกจากนี้ยังมีวิธีดี ๆ และได้ผลของคุณสะใภ้อินเตอร์ ที่ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมมาตลอด 4 ปี แต่ปีนี้มีวิธีป้องกัน และน้ำไม่ท่วมเข้าบ้านมาฝากกันจ้า
วิธีป้องกันน้ำท่วมให้อยู่หมัด หลังน้ำท่วมมา 4 ปี by คุณสะใภ้อินเตอร์
คุณสะใภ้อินเตอร์ผู้ที่ผ่านประสบการณ์น้ำท่วมมาถึง 4 ครั้ง น้ำได้ไหลทะลักเข้าไปในตัวบ้านจนข้างของเสียหายมาหลายครั้ง วิธีป้องกันน้ำท่วมหลายต่อหลายวิธี คุณสะใภ้อินเตอร์ก็ได้ลองทำมาหมด ไม่ว่าจะเป็นตั้งกระสอบทราย หรือดินน้ำมัน แต่วิธีเหล่านั้นก็ไม่สามารถป้องกันน้ำไม่ให้ไหลทะลักเข้ามาได้ ... มาวันนี้ จากประสบการณ์ 4 ปีที่เคยผ่านน้ำท่วมมา คุณสะใภ้อินเตอร์ จึงมีวิธีป้องกันน้ำท่วมอย่างอยู่หมัดมาฝากกันค่ะสระว่ายน้ำก่อนถูกน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว 2553
สระว่ายน้ำก่อนถูกน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว 2553
สระว่ายน้ำก่อนถูกน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว 2553
สภาพน้ำตอนถูกน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว 2553
สภาพน้ำตอนถูกน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว 2553
ปีนี้เลยกั้นเหล็กให้สูงขึ้น
และหาวิธียึดให้ติดกำแพงเพื่อป้องกันแรงกระแทกของน้ำจากรถที่วิ่งผ่านโดยจะใช้วิธีทำเป็นเหล็กยันไว้
แล้วยึดด้วยกลอนสองชั้น
วิธีเข้าบ้านต้องเข้าแบบนี้ (อาจจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ)
ภายในบ้านในน้ำแผ่นพลาสติกอันซิลิโคนตามร่อง
จะเห็นได้ว่า น้ำไม่สามารถเข้าบ้านได้
อย่าลืมอัดซิลิโคนที่ประตูหลังด้วย
ภาพด้านซ้ายคือ ภาพรถที่ไม่ได้ป้องกันน้ำท่วม ส่วนภาพด้านขวาเลยหาคันยก และยกให้สูงขึ้น
การอัดซิลิโคนตามร่อง
ภาพน้ำท่วมเมื่อปีก่อน ๆ ใช้ดินน้ำมันอุด แต่ไม่สามารถกั้นน้ำได้
ส่วนภาพนี้ใช้กระสอบทราย ซึ่งก็มีน้ำไหลซึมตลอดเวลา
วิธีป้องกันไม่ให้น้ำท่วมบ้านอย่างได้ผล by คุณทองกาญจนา
เตรียมการก่อนประสบการณ์ จากน้ำท่วมเมื่อครั้งที่แล้ว พบว่าถึงแม้จะกั้นกระสอบทรายไว้ที่ประตูรั้ว แต่ก็ไม่สามารถกั้นน้ำเข้าบ้านได้ เพราะ (1) บริเวณสนามหญ้าและลานอิฐบล็อกภายในบริเวณบ้านจะมีน้ำปุดทะลุพื้นดินขึ้นมา (2) กระสอบทรายไม่มีความมั่นคงแข็งแรงเพียงพอ เมื่อถูกคลื่นที่เกิดจากรถยนต์วิ่งฝ่าเข้ามาในถนนที่น้ำท่วม จะมีแรงดันมหาศาลทำให้กำแพงกระสอบทรายพัง และน้ำไหลเข้าบริเวณบ้านได้ในที่สุด
จากประสบการณ์ดังกล่าวผมได้เตรียมการไว้หลังจากน้ำลดครั้งที่แล้ว ดังนี้
(1) ปรับปรุงพื้นรอบ ๆ บริเวณบ้านใหม่ โดยทำพื้นให้เรียบและเทพื้นด้วยคอนกรีตซีแพ็คลงไปจนเต็มชิดรั้วทุกด้าน
(2) ทำบานเหล็กสำหรับกั้นน้ำพร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง โดยทำกรอบรางเหล็กสำหรับสวม ติดถาวรไว้ที่ประตูรั้วบ้านทั้งซ้ายและขวา ส่วนบานเหล็กและเสาค้ำยันถอดออกได้ เพื่อให้สามารถใช้ประตูบ้านได้ในยามปกติ
(3) ซื้อเครื่องสูบน้ำชนิดแช่ขนาดเล็กที่เรียกว่า ไดรโว่ ราคาประมาณ 1,500-2,000 บาท เครื่องสูบน้ำชนิดนี้จะขาดตลาดทันทีที่เกิดน้ำท่วม จึงต้องซื้อเก็บไว้ล่วงหน้า แล้วก็ไม่ลืมสายไฟพร้อมปลั๊กที่จะใช้ต่อพ่วงมาจากตัวบ้านจนถึงประตูรั้ว
(4) ดินน้ำมันจำนวนหนึ่ง ใช้สำหรับอุดในช่องว่างที่ประกอบบานเหล็กกั้นน้ำเข้ากับประตูรั้วบ้าน
น้ำมาแล้ว
เสียง ประกาศเตือนภัยจาก อบต. ตั้งแต่เช้า แจ้งว่าน้ำคงจะเข้าท่วมหมู่บ้านในช่วงบ่าย ขอให้ประชาชนเตรียมป้องกันทรัพย์สินของตนเอง ผมนำรถยนต์ออกจากบ้านไปจอดไว้ยังที่ปลอดภัยนอกหมู่บ้าน กลับเข้ามาก็เริ่มติดตั้งบานเหล็กเข้ากับประตูรั้วบ้าน ติดตั้งเสาค้ำยัน ใช้ดินน้ำมันอุดตามรอยต่อระหว่างบานกับกรอบรางเหล็ก นำเครื่องสูบน้ำไดรโว่มาวางไว้ใกล้ประตูรั้วในตำแหน่งที่คาดว่าน้ำจะซึมเข้า มาและท่วมขังอยู่ ต่อสายไฟพร้อมใช้งาน แล้วรอน้ำที่กำลังเริ่มไหลเข้ามาในหมู่บ้านอย่างใจจดใจจ่อ
เวลา ประมาณ 16.00 น. น้ำท่วมถนนภายในหมู่บ้านทุกถนนแล้ว มีน้ำซึมผ่านบานเหล็กที่ประตูรั้วเข้ามาในบ้านของผมปริมาณหนึ่ง แต่เมื่อเปิดเครื่องสูบน้ำก็สามารถควบคุมระดับน้ำไม่ให้สูงจนเกิดความเสีย หายได้ เมื่อน้ำในถนนลดลง ผมไม่ต้องลำบากในการทำความสะอาดบริเวณบ้าน ที่มีดินโคลนตกค้างจากน้ำท่วมขัง เหมือนน้ำท่วมเมื่อครั้งก่อนอีกแล้ว
ภาพบรรยากาศ
ติดตั้งบานเหล็กเข้ากับเสาประตูรั้วบ้าน พร้อมติดตั้งเสาค้ำยัน
เข้า-ออก จากบ้านต้องใช้เก้าอี้บันไดตัวนี้ สังเกตระดับน้ำภายนอกบ้านเริ่มสูงมากแล้ว
ขณะที่ถนนด้าน นอกระดับน้ำสูงถึง 60 ซม. แต่ภายในบ้านมีน้ำรั่วซึมเข้ามาเพียงเท่านี้ และเมื่อเปิดเครื่องสูบน้ำ น้ำก็จะแห้งภายใน 5 นาที
ลุยน้ำออกไปถ่ายจากนอกบ้านเข้ามา สภาพประตูกั้นน้ำจะมีลักษณะนี้
บ้านข้าง ๆ ก็ติดตั้งบานประตูกั้นน้ำเช่นเดียวกัน
อีกภาพหนึ่ง
หวังว่าบันทึกนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่มีบ้านในหมู่บ้านจัดสรร ที่น้ำเคยท่วมแล้ว จะได้เป็นแนวทางในการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับบ้านแสนรักในครั้ง ต่อไปได้บ้างตามสมควรครับ
วิธีป้องกันน้ำเข้าบ้านง่าย ๆ แบบไม่ใช้กระสอบทราย by คุณอนันต์
ด้วยเหตุนี้ ของที่สำคัญในการป้องกันน้ำท่วมอย่าง "กระสอบทราย" รวมถึงอิฐบล็อกต่าง ๆ จึงขาดตลาด แต่เพื่อน ๆ ก็ไม่ต้องหนักใจไป เพราะในวันนี้เรามีวิธีป้องกันน้ำเข้าบ้าน แนวคิดดี ๆ จาก คุณอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ที่จะใช้วัสดุง่าย ๆ ในการป้องกันน้ำท่วม แบบไม่ต้องใช้กระสอบทราย มาแนะนำกันค่ะ
มาเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาค คนละ ไลค์ เพื่อคนไทย
http://www.facebook.com/k.sharing – 1 Like = 1 บาท
http://www.facebook.com/krupnan – 1 Like = 9 บาท
http://www.facebook.com/gunpun – 1 Like = 5 บาท
http://www.facebook.com/ezybot – 1 Like = 2 บาท
http://chip.in.th/vbtdonate/flood54.php 1 คอมเม้น มีค่า 5 บาททันที
ขอความกรุณา คลิ๊กคนละ ไลค์ เพื่อเป็นส่วนช่วยเสมือนเป็นการบริจาค
ทุกๆไลค์ มีค่าสำหรับผู้ประสบอุทกภัย เราคนไทย ไม่ทอดทิ้งกัน
เสี่ยตัน สอนทำเสื้อชูชีพ DIY จากขวดน้ำพลาสติก
นับเป็นปรากฏการณ์ที่เหลือกำลังรับกับ วิกฤตการณ์น้ำท่วมแทบจะทุกหย่อมหญ้าในประเทศไทย นอกจากเครื่องอุปโภคบริโภคแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ เสื้อชูชีพที่จะสามารถป้องกันความโหดร้ายของน้ำได้ แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า…!!
ณ วันนี้ เสื้อชูชีพกำลังขาดตลาด…?? ไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสได้พูดคุยกับ ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไม่ตัน จำกัด หรือ “ตัน อิชิตัน” เจ้าของไอเดียการประดิษฐ์เสื้อชูชีพด้วยตัวเองถึงต้นธารนี้ว่า ไอเดียนี้มันเกิดขึ้นหลังตนเข้าไปมีส่วนร่วมในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบ ภัยน้ำท่วม ทั้งการลงพื้นที่และบริจาคสิ่งของที่จำเป็นต่างๆ โดยเฉพาะเสื้อชูชีพกว่า 10,000 ตัว แต่เนื่องจากมีผู้ต้องการมากกว่านั้นมากมันจึงเกิดเป็นไอเดียประดิษฐ์ อุปกรณ์รอบตัวเนรมิตเป็นเสื้อชูชีพนี้ขึ้นมา
“เราลงไปเห็นปัญหาเยอะ คนต้องการเสื้อชูชีพมากมาย ซึ่งคนติดต่อขอมาเยอะมาก เลยคิดว่า นอกจากเสื้อชูชีพที่มีอยู่หมื่นชุดบริจาคไม่นานก็หมด สิ่งสำคัญก็คือถึงแม้จะใช้เงินซื้อเสื้อชูชีพก็ซื้อไม่ได้ เพราะว่าของขาดตลาด ก็เลยมาคิดว่าพวกเขาน่าจะทำอะไรสักอย่าง ก็เลยปิ๊งไอเดียนี้จากข้าวของรอบตัวเช่น ขวดน้ำเปล่า หมอนข้าง ถุงยังชีพ ขึ้นมาโดยใช้เวลาประดิษฐ์และทดลองตรวจสอบคุณภาพว่าใช้ได้จริงๆ ทนทานไหมอยู่ 2 วันเต็มๆ ปรากฏว่าได้ผลดีเยี่ยม” ผู้บริหารนักประดิษฐ์กล่าว
สำหรับขั้นตอนการประดิษฐ์เสื้อชูชีพมีดังนี้
1.เตรียมถุงยังชีพขนาดตัดคอเสื้อให้พอดีกับขนาดศีรษะ เมื่อเสร็จแล้วก็พับถึงเอาตะเข็บไว้ตรงกลาง
2.ตัดแขนเสื้อให้พอดีกับผู้ใส่ หลังจากนั้นก็ลองสวม ซึ่งจะเห็นได้ว่าก้นถุงอยู่ที่คอ แล้วปากถุงก็เป็นชายเสื้อ
3.ขั้นตอนต่อมาก็เตรียมขวดเปล่าขนาดเล็ก 8 ขวด หรือขวดใหญ่ใช้ 6 ขวด ปิดฝาให้แน่น
4.นำขวดที่เตรียมมาใส่ถุงก๊อบแก๊บ (2 ถุง) แล้วผูกปากถุงให้แน่น และอีกครึ่งใส่ด้านหลังผูกเชือกตรงเอวให้แน่น
5.สำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นให้ลอยตัวแล้วนำขวดเข้าไว้ข้างหน้า
สุดท้าย ‘ตัน อิชิตัน’ บอกว่า ยังสามารถนำขวดพลาสติกมาประดิษฐ์เพื่อทำเสื้อชูชีพได้อีกมากมาย และย้ำว่า รู้แล้วควรนำไปบอกคนอื่นๆต่อ ถือว่าเป็นการทำบุญช่วยชีวิตคนอื่นได้อีกด้วย
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
สุขุมพันธุ์ห่วง
คลองมหาสวัสดิ์เอ่อท่วม
ที่ศูนย์อำนวย การเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย กรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมายังอยู่ที่ 2.15 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ต่ำกว่าคันกั้นน้ำของกทม.ซึ่งสูง อยู่ 65 ซม. และไม่ได้สูงมากไปกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนต้นว่าจะสูง 2.30 เมตร และยังไม่ทำลายสถิติปี 2538 ที่สูงถึง 2.23 เมตร อย่างไรก็ตาม ทางกทม.ได้มีการย้ายประชาชนที่อยู่นอกแนวป้องกันจากพื้นที่ดุสิตเข้าสู่ ศูนย์พักพิงที่กทม.เตรียมไว้รองรับแล้วรวม 29 คน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ยังได้แสดงความกังวลต่อ พื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันตก ทางด้านคลองมหาสวัสดิ์ เขตทวีวัฒนา เนื่องจากมีปริมาณน้ำค่อนข้างมาก โดยมีระดับสูงถึง 1.91 เมตร ซึ่งต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 89 ซม. โดยแนวกระสอบทรายขณะนี้ยังคงไม่มากพอ อีกทั้งเส้นทางที่คลองมหาสวัสดิ์พาดผ่านคือ ถ.พุทธมณฑลสาย 4 ทั้งเส้น ซึ่งก็มีระดับต่ำอยู่แล้ว หากจะวางแนวคันกั้นน้ำตลอดทั้งสายคงต้องใช้เวลานาน จึงต้องใช้วิธีเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด แต่ไม่อยากให้ประชาชนกังวลมากนัก เนื่องจากหากน้ำจะท่วมในเขตกรุงเทพฯ จะไม่มีการทะลักเข้ามาของน้ำในปริมาณมหาศาลอย่างในหลายจังหวัด แต่เป็นเพียงระดับน้ำที่ค่อย ๆ เอ่อขึ้นมาเท่านั้น ซึ่งยืนยันว่าทางกทม.จะสามารถเตรียมการและแจ้งอพยพต่อประชาชนได้ทันเวลา
สำหรับการเตรียมความพร้อมทางด้านเหนือของ กทม.ที่เขตดอนเมือง สายไหม รวมไปถึงพื้นที่คลองหนึ่ง หลักหก และรังสิต จ.ปทุมธานีนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่ากทม.ได้จัดเจ้าหน้าที่เสริมความแข็.แรงและความสูงของกระสอบทราย บริเวณคลองรังสิตเพิ่มขึ้นอีก 50 ซม.รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ม. เนื่องจากระดับน้ำในคลองรังสิตและคลองหกวาสายล่างมีระดับที่ค่อนข้างสูง ซึ่งก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และอาจต้องเสริมแนวกระสอบทราบมากขึ้นอีกในอนาคต
ส่วนการเตรียมความพร้อมฝั่งตะวันออก ของกรุงเทพฯ ในเขตคลองสามวา มีนบุรี หนองจอก และลาดกระบังนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ขณะนี้ถนนบางสายมีระดับน้ำท่วมขังสูง 10-30 ซม. เช่นถ.ลาดกระบัง ถ.คุ้มเกล้า และถ.หลวงแพร่ง โดยทางกทม.ไดประสานกับกรมชลประทานเพื่อลดระดับน้ำในคลอง รวมถึงจัดรถทหารและรถขสมก.รับส่งประชาชนในหมู่บ้านที่มีน้ำท่วมขัง และได้เข้าไปวางกระสอบทราบเป็นทางเดินในหมู่บ้านต่าง ๆ อีกด้วย.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
เจ้าหน้าที่ยังคงทำงานต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพื่อลำเลียงผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล
วันนี้ทีมข่าวของเรา คุณเพทาย สมจันทร์ ติดตามพลตำรวจตรีชวลิต แสวงพืชน์ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ซึ่งนำเจ้าหน้าที่ร่วมมือกับศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินกองทัพเรือ กองทัพบก เนื่องจากเส้นทางที่ใช้เข้าเกาะเมืองใช้การไม่ได้ ทางทีมงานก็ต้องใช้เรือล่องไปตามแม่น้ำป่าสัก ซึ่งกระแสน้ำค่อนข้างเชี่ยวกว่าจะเดินทางไปถึงโรงพยาบาล
โดยชุดแรกทางเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ป่วยหนักซึ่งเป็นพระ 4 รูป ข้ามถนนของโรงพยาบาล มาลงเรือที่ริมแม่น้ำป่าสัก ก่อนจะส่งต่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยรับต่อไป หลังจากนั้นทีมงานของเรากับตำรวจได้ก็กลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งสภาพของโรงพยาบาลที่เราเห็นน้ำท่วมชั้นหนึ่งเกือบถึงชั้นสอง แล้วเราใช้เรือเข้าไปจอดในชั้นหนึ่งของโรงพยาบาล ซึ่งปกติจุดที่รับผู้ป่วยนี้คือจุดที่คนไข้มานั่งรอลงทะเบียน จุดรับยา
พอเราขึ้นไปชั้น 3 พบผู้ป่วยจำนวนมากที่กำลังรอความช่วยเหลือ แต่ยังเป็นผู้ป่วยที่ยังไม่ถือว่าอาการโคม่า เมื่อเปรียบเทียบกับชั้น 4 ที่เราได้ขึ้นไปสำรวจผู้ป่วยมีอาการหนักกว่า ส่วนใหญ่ต้องใช้ถังออกซิเจน และเนื่องจากโรงพยาบาลถูกตัดน้ำตัดไฟ เราจึงเห็นภาพของผู้ป่วยที่ต้องนอนทุรนทุรายหลังจากที่ออกซิเจนหมด
ถึงแม้จะต้องเจอกับสภาพที่ยากลำบากและทรัพยากรจำกัด เจ้าหน้าที่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะพยายามนำผู้ป่วยออกมาจากโรงพยาบาลให้ได้
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันว่ามีผู้ป่วยทั้งอาการหนักและผู้ป่วยยังอยู่ในโรงพยาบาลอีกกี่คน แต่ทางเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะตำรวจน้ำยืนยันว่า จะนำทุกคนออกมาให้ได้ทั้งหมดภายในวันนี้
ผู้ว่าฯนนท์ ยันเขื่อนปากเกร็ดไม่แตก
ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรียืนยันพนังกันน้ำปากเกร็ดยังไม่แตก แค่เกิดรอยรั่ว เร่งประสานเจ้าหน้าที่ซ่อมแซมแล้ว
นาย วิเชียร พุทธิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยกับทีมข่าว Voice TV ว่า กระแสข่าวพนังกันน้ำบริเวณ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีแตก ทำให้น้ำได้ไหลเข้าท่วมหลายตำบลว่า ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงแค่รอยรั่วของพนังกั้นน้ำใน 2 จุด ประกอบด้วยบริเวณวัดบางจากและโรงพยาบาลบางบัวทองใกล้กับหมู่บ้านนภาวัลย์ 12 ซึ่งขณะนี้กรมทางหลวงกำลังอยู่ระหว่างการเร่งซ่อมแซมให้กลับเข้าสู่สภาวะ ปกติ พร้อมกัน นี้ ยืนยันว่าคันกั้นน้ำของจังหวัดนนทบุรียังแข็งแรง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสำรวจ และเพิ่มกระสอบทรายให้สูงขึ้นอีก 50 ซม. จากเดิม ที่ทำไว้สูงอยู่แล้ว 3 เมตร ซึ่งล่าสุดคันกั้นน้ำสามารถรองรับน้ำได้สูง 3 เมตร
Produced by Voice TV
เกิดน้ำท่วม ฟาร์มฯจระเข้ของชาวกัมพูชา ริมคลองพรมโหด ฝั่งปอยเปต ทำให้จระเข้หลุดเข้ามาในฝั่งไทย ประมาณ กว่า 10 ตัว
ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากจุดตรวจทหารพราน บ้านจารย์จู ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ว่า ได้รับการแจ้งประสานมาจาก ทหารกัมพูชา ว่า ฟาร์มเลี้ยงจระเข้ของชาวกัมพูชา ริมคลองพรมโหด ฝั่งปอยเปต ได้เกิดน้ำท่วม ทำให้จระเข้ในฟาร์มฯ ประมาณ กว่า 10 ตัว หลุดลงมาในคลองพรมโหด ล่าสุด ฆ่าได้แล้ว 3 ตัว และจับเป็นได้อีก 3 ตัว ซึ่งขณะนี้ กำลังออกติดตามไล่ล่าตัวแม่พันธุ์ เกรงจะไปทำร้ายชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม
โดยก่อนหน้านี้หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 12 ได้ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.สุบิน บุญเล็ก ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว นำกำลังและรถยนต์บรรทุก พร้อมเรือท้องแบนออกช่วยเหลือชาวบ้าน หมู่ที่ 1 บ้านท่าข้าม และ หมู่ที่ 3 บ้านวังมน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดชายแดน ตรงข้ามกรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา หลังเกิดฝนตกหนักที่ผ่านมา ทำให้คลองพรมโหด ซึ่งเป็นคลองกั้นพรมแดนไทย-กัมพูชา น้ำได้เอ่อล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่บริเวณริมคลองทั้ง 2 หมู่บ้านหลายร้อยหลังคาเรือน อีกทั้ง ได้มีน้ำป่าไหลหลาก มาจาก อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว มาสมทบ ทำให้น้ำเอ่อท่วมไร่ นา เป็นบริเวณกว้าง
Source : News Center / INN /
ยอดตายน้ำท่วมพุ่ง269ราย 2ล้านครัวเรือนเดือดร้อน
ปภ.เผย 30 จังหวัดยังจมบาดาล ยอดผู้เสียชีวิตน้ำท่วมสูงถึง 269 ราย ขณะที่กว่า 2 ล้านครัวเรือนเดือดร้อนทั่วหน้า เตือนกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี จันทบุรี และตราด เฝ้าระวังดินถล่ม-น้ำป่าหลาก…
เมื่อ วันที่ 10 ต.ค. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย รายงานสถานการณ์ปัจจุบัน ยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 30 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี เชียงใหม่ ร้อยเอ็ด ลำปาง เลย นครราชสีมา บุรีรัมย์ กำแพงเพชร และจังหวัดตาก 223 อำเภอ 1,532 ตำบล 10,130 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 784,097 ครัวเรือน 2,388,286 คน และมีผู้เสียชีวิต 269 ราย สูญหาย 4 คนทั้ง นี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งที่อำเภอทองผาภูมิ สังขละบุรี ไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอสวนผึ้ง บ้านคา ปากท่อ จังหวัดราชบุรี อำเภอหนองหญ้าปล้อง แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี อำเภอขลุง มะขาม เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี และอำเภอบ่อไร่ เกาะช้าง จังหวัดตราด เตรียมเฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านตอนกลางของประเทศไทย ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทำให้ดินบนภูเขาชุ่มน้ำอาจถล่มเพิ่มลงมาได้ โดยแจ้งให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี จันทบุรี และจังหวัดตราด เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขา และพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัด ทราบเกี่ยวกับภัยอันเกิดจากฝนตกหนัก ให้เตรียมการป้องกัน และระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากภัยธรรมชาติ โดยจัดเจ้าหน้าที่อยู่เวรเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อม เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์
เจ้าหน้าที่ยังคงทำงานต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพื่อลำเลียงผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล
วันนี้ทีมข่าวของเรา คุณเพทาย สมจันทร์ ติดตามพลตำรวจตรีชวลิต แสวงพืชน์ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ซึ่งนำเจ้าหน้าที่ร่วมมือกับศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินกองทัพเรือ กองทัพบก เนื่องจากเส้นทางที่ใช้เข้าเกาะเมืองใช้การไม่ได้ ทางทีมงานก็ต้องใช้เรือล่องไปตามแม่น้ำป่าสัก ซึ่งกระแสน้ำค่อนข้างเชี่ยวกว่าจะเดินทางไปถึงโรงพยาบาล
โดยชุดแรกทางเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ป่วยหนักซึ่งเป็นพระ 4 รูป ข้ามถนนของโรงพยาบาล มาลงเรือที่ริมแม่น้ำป่าสัก ก่อนจะส่งต่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยรับต่อไป หลังจากนั้นทีมงานของเรากับตำรวจได้ก็กลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งสภาพของโรงพยาบาลที่เราเห็นน้ำท่วมชั้นหนึ่งเกือบถึงชั้นสอง แล้วเราใช้เรือเข้าไปจอดในชั้นหนึ่งของโรงพยาบาล ซึ่งปกติจุดที่รับผู้ป่วยนี้คือจุดที่คนไข้มานั่งรอลงทะเบียน จุดรับยา
พอเราขึ้นไปชั้น 3 พบผู้ป่วยจำนวนมากที่กำลังรอความช่วยเหลือ แต่ยังเป็นผู้ป่วยที่ยังไม่ถือว่าอาการโคม่า เมื่อเปรียบเทียบกับชั้น 4 ที่เราได้ขึ้นไปสำรวจผู้ป่วยมีอาการหนักกว่า ส่วนใหญ่ต้องใช้ถังออกซิเจน และเนื่องจากโรงพยาบาลถูกตัดน้ำตัดไฟ เราจึงเห็นภาพของผู้ป่วยที่ต้องนอนทุรนทุรายหลังจากที่ออกซิเจนหมด
ถึงแม้จะต้องเจอกับสภาพที่ยากลำบากและทรัพยากรจำกัด เจ้าหน้าที่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะพยายามนำผู้ป่วยออกมาจากโรงพยาบาลให้ได้
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันว่ามีผู้ป่วยทั้งอาการหนักและผู้ป่วยยังอยู่ในโรงพยาบาลอีกกี่คน แต่ทางเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะตำรวจน้ำยืนยันว่า จะนำทุกคนออกมาให้ได้ทั้งหมดภายในวันนี้
ผู้ว่าฯนนท์ ยันเขื่อนปากเกร็ดไม่แตก
ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรียืนยันพนังกันน้ำปากเกร็ดยังไม่แตก แค่เกิดรอยรั่ว เร่งประสานเจ้าหน้าที่ซ่อมแซมแล้ว
นาย วิเชียร พุทธิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยกับทีมข่าว Voice TV ว่า กระแสข่าวพนังกันน้ำบริเวณ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีแตก ทำให้น้ำได้ไหลเข้าท่วมหลายตำบลว่า ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงแค่รอยรั่วของพนังกั้นน้ำใน 2 จุด ประกอบด้วยบริเวณวัดบางจากและโรงพยาบาลบางบัวทองใกล้กับหมู่บ้านนภาวัลย์ 12 ซึ่งขณะนี้กรมทางหลวงกำลังอยู่ระหว่างการเร่งซ่อมแซมให้กลับเข้าสู่สภาวะ ปกติ พร้อมกัน นี้ ยืนยันว่าคันกั้นน้ำของจังหวัดนนทบุรียังแข็งแรง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสำรวจ และเพิ่มกระสอบทรายให้สูงขึ้นอีก 50 ซม. จากเดิม ที่ทำไว้สูงอยู่แล้ว 3 เมตร ซึ่งล่าสุดคันกั้นน้ำสามารถรองรับน้ำได้สูง 3 เมตร
Produced by Voice TV
เกิดน้ำท่วม ฟาร์มฯจระเข้ของชาวกัมพูชา ริมคลองพรมโหด ฝั่งปอยเปต ทำให้จระเข้หลุดเข้ามาในฝั่งไทย ประมาณ กว่า 10 ตัว
ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากจุดตรวจทหารพราน บ้านจารย์จู ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ว่า ได้รับการแจ้งประสานมาจาก ทหารกัมพูชา ว่า ฟาร์มเลี้ยงจระเข้ของชาวกัมพูชา ริมคลองพรมโหด ฝั่งปอยเปต ได้เกิดน้ำท่วม ทำให้จระเข้ในฟาร์มฯ ประมาณ กว่า 10 ตัว หลุดลงมาในคลองพรมโหด ล่าสุด ฆ่าได้แล้ว 3 ตัว และจับเป็นได้อีก 3 ตัว ซึ่งขณะนี้ กำลังออกติดตามไล่ล่าตัวแม่พันธุ์ เกรงจะไปทำร้ายชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม
โดยก่อนหน้านี้หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 12 ได้ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.สุบิน บุญเล็ก ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว นำกำลังและรถยนต์บรรทุก พร้อมเรือท้องแบนออกช่วยเหลือชาวบ้าน หมู่ที่ 1 บ้านท่าข้าม และ หมู่ที่ 3 บ้านวังมน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดชายแดน ตรงข้ามกรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา หลังเกิดฝนตกหนักที่ผ่านมา ทำให้คลองพรมโหด ซึ่งเป็นคลองกั้นพรมแดนไทย-กัมพูชา น้ำได้เอ่อล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่บริเวณริมคลองทั้ง 2 หมู่บ้านหลายร้อยหลังคาเรือน อีกทั้ง ได้มีน้ำป่าไหลหลาก มาจาก อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว มาสมทบ ทำให้น้ำเอ่อท่วมไร่ นา เป็นบริเวณกว้าง
Source : News Center / INN /
คนกรุงตื่นน้ำท่วม!เเห่โทร191
พ.ต.อ.ณภัทร จุลละบุษปะ รองผู้บังคับการกองบังคับสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) เปิดเผยถึงข้อมูลเบอร์สายด่วน 191 ในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีประชาชนโทรเข้ามาสอบถาม แจ้งข่าวสาร ข้อมูล เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมแล้วกว่า 700 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นการโทรแจ้งเรื่องน้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนที่เดือดร้อน 28 ชุมชน รวม 14 เขต ซึ่งทั้งหมดอยู่ในพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำของ กทม. ทั้งนี้ จะเป็นการสอบถามเรื่องทั่วๆ ไป ส่วนใหญ่สอบถามว่าน้ำจะท่วมกรุงเทพหรือไม่ เส้นทางที่น้ำท่วม หรือสอบถามว่าเมื่อไหร่น้ำจะลด ซึ่งสายที่โทรสอบถาม ส่วนหนึ่งจะมีความตื่นตระหนก จากการบริโภคข่าวสารของประชาชน แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ว่าพี่น้องประชาชนมีการเตรียมความพร้อม เรื่องการขนย้ายสิ่งของหนีน้ำ หรือสถานที่ ที่จอดรถหากเกิดน้ำท่วม
อย่างไรก็ตาม ต้องวอนเรียนพี่น้องประชาชน ให้ช่วยแจ้งเบาะแสเรื่องน้ำท่วม เช่น หากพบคันกั้นน้ำชำรุด ก็ให้แจ้ง 191 ได้ทันที เนื่องจากเจ้าหน้าที่อาจจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง และช่วยสอดส่องปัญหาอาชญากรรมในช่วงดังกล่าวด้วย อีกทั้งในส่วนของ 191 เอง ก็ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือน้ำท่วม และจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมกันนี้ยังพร้อมให้การช่วยเหลือบริการรถเสียจากน้ำท่วม อีกด้วย